เชฟก้อยกับข้าวสายน้ำแร่แจ้ซ้อน : เมนูโต๊ะไทยแบบชาวกรุง “ข้าวซาวน้ำ”

คุณก้อย กนิษฐกา ลิมังกูร หรือ พี่ก้อย วันละโต๊ะ แห่งอันจะกินวิลล่า ร้านอาหารที่คิวจองแน่นข้ามปี เป็นบ้านหลังอบอุ่นที่เปิดให้แขกผู้มาเยือนได้เดินเข้ามาชิมฝีมือการทำอาหารเพียงแค่วันละโต๊ะ

พี่ก้อยนำข้าวหอมมะลิดำสายน้ำแร่แจ้ซ้อนมาทำเมนูโต๊ะไทยแบบชาวกรุง “ข้าวซาวน้ำ” รสชาติอร่อย รับประทานแล้วสดชื่น ที่สำคัญคือมีคุณค่าทางโภชนาการ และทำง่ายมาก

ความพิเศษของข้าวสายน้ำแร่แจ้ซ้อนคือการใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติแม่น้ำมอญ ซึ่งมีต้นกำเนิดจากขุนแม่มอญ ไหลผ่านอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนที่มีน้ำพุร้อน กลายเป็นสายน้ำแร่ ต้นข้าวในพื้นที่เพาะปลูกจึงถูกหล่อเลี้ยงด้วยน้ำแร่จากธรรมชาติ ทำให้ต้นข้าวได้รับแร่ธาตุและสารอาหารที่ดีในปริมาณมาก จึงมีความอุดมสมบูรณ์สูง และยังปลูกด้วยระบบอินทรีย์ ดูแลกระบวนผลิตทุกขั้นตอนด้วยความใส่ใจ จนได้เป็น “ข้าวสายน้ำแร่แจ้ซ้อน”

ข้าวหอมมะลิดำ สายน้ำแร่แจ้ซ้อน เป็นข้าวเจ้าพันธุ์หอมมะลิดำหนองคาย 62 หรือ กข. 83 ซึ่งเป็นข้าวพันธุ์เฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 10 มีสีดำโดยธรรมชาติ เมล็ดเรียวยาว เมื่อหุงแล้วมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน รสชาติอร่อย เป็นข้าวที่ปลูกแบบอินทรีย์ และได้สายน้ำแร่คอยหล่อเลี้ยงต้นข้าว ทำให้มีสารแอนโทไซยานินสูงกว่าข้าวจากแหล่งปลูกอื่น ซึ่งมีประโยชน์ในการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และลดระดับน้ำตาลในเลือด

“เมื่อตัดถุงข้าวดูก็มีกลิ่นหอมโชยออกมาเลย กลิ่นเหมือนขนม กลิ่นเหมือนดอกไม้ เมล็ดข้าวสะอาดมาก ไม่มีผงมอด ไม่มีฝุ่น เรียวสวยเท่ากันทุกเมล็ด สวยงาม น่ากินมากๆ หลังจากที่ลองหุงดูแล้วก็พบว่าข้าวมีความเหมือนข้าว Wild Rice จึงคิดว่าถ้าเอามาทำเป็นอาหารประเภทยำ หรือสลัดข้าว น่าจะเข้ากันดีมาก”

“ข้าวหอมมะลิดำซาวนํ้า”
เมนูโต๊ะไทยแบบชาวกรุง

พี่ก้อยนำเสนอสูตรอร่อยของโต๊ะไทยพื้นบ้านในเมนู “ข้าวซาวนํ้า” โดยใช้ข้าวหอมมะลิดำ สายน้ำแร่แจ้ซ้อน ที่มีเมล็ดข้าวเรียวยาว สีม่วงเข้ม กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ เป็นเมนูง่ายๆ ซึ่งสามารถทำกินเองได้ที่บ้าน

ส่วนผสม

    • ข้าวหอมมะลิดำ สายน้ำแร่แจ้ซ้อน หุงสุก 150 กรัม
    • ขิงซอย
    • สับปะรด
    • มะม่วงดิบ
    • แตงกวาซอย เอาเมล็ดออก
    • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
    • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
    • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
    • กุ้งแห่งป่น
    • กระเทียมทอด
    • กุ้งแห้งทอด
    • พริกขี้หนูหั่นฝอย

วิธีทำ

  1. ใส่ข้าวหอมมะลิดำ สายน้ำแร่แจ้ซ้อน ที่หุงสุกแล้วลงไปในชามผสม
  2. เติมน้ำตาลทราย น้ำมะนาว และน้ำปลา แล้วคลุกให้เข้ากัน เพื่อให้ข้าวดูดน้ำยำ
  3. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงไปในชามผสม ได้แก่ ขิงซอย สับปะรด มะม่วงดิบ แตงกวาซอย กุ้งแห้ง กระเทียมทอด กุ้งแห้งทอด พริกขี้หนู แล้วคลุกให้เข้ากัน
  4. เมื่อคลุกทั่วกันดีแล้วลองชิมดูอีกครั้ง จากนั้นก็ปรุงรสจืดเค็มเผ็ดตามใจชอบ
  5. ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยกระเทียมทอด และกุ้งแห้งทอดอีกเล็กน้อย พร้อมเสิร์ฟ

 

* เคล็ดลับ หากดูที่ข้างถุงของข้าวจะบอกวิธีการหุงข้าวในอัตรา 1:2 เมื่อข้าวสุกออกมาแล้วจะได้ข้าวที่หอมนุ่ม แต่เมนูนี้จะหุงด้วยอัตราส่วน ข้าว 1 ส่วนต่อน้ำ 1.5 ส่วน เพื่อให้ข้าวมี Texture ที่เคี้ยวสนุก เหมาะกับการนำมาทำข้าวยำ 

 

สามารถชมคลิปวิธีการทำเมนูเมนูโต๊ะไทยแบบชาวกรุง “ข้าวซาวน้ำ” จากข้าวข้าวหอมมะลิดำ สายน้ำแร่แจ้ซ้อน ที่นี่


* ขอขอบคุณ บริษัท CJS ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ Co-Studio ในการถ่ายทำ #CJSCOSTUDIO
#UTDRF #RICE #ลานนา40 #sustainable #recipe

You Might Also Like