ประณีตกับอาหาร ละเมียดละไมกับการใช้ชีวิต ที่สวนทูนอิน

ประณีตกับอาหาร ละเมียดละไมกับการใช้ชีวิต
ที่สวนทูนอิน

“วันนี้พี่จะพาไปกินข้าวบ้านพญาอินทรีย์ ครอบครัวที่เป็นเจ้าของเขาทั้งลูก” โอ้โห…ฟังดูแล้วเร้าใจมาก ว่าแล้วท่านพี่สหายสายท่องเที่ยวก็ขับรถพาขึ้นดอยมาโป่งแยง ยิ่งสูงขึ้นอากาศยิ่งค่อยๆเย็นลง เราลดกระจกให้ลมเย็นพากลิ่นป่าสดชื่นหลังฝน แทรกตัวเข้ามาปนกับกลิ่นของเครื่องปรับอากาศที่เพิ่งปิดเครื่องไป…การออกนอกเมืองบ้างนี่มันดีจริงๆ

เมื่อเดินเข้าไปในร้าน เราค่อยๆปรับตัวให้ช้าลงเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ กลิ่นหอมเย็นๆ ของดอกไม้โชยมา ได้ยินเสียงน้ำไหล พาให้ใจสงบอย่างบอกไม่ถูก เหมือนพาตัวเองหายเข้าไปในอีกโลกหนึ่ง ตัดขาดจากความวุ่นวาย เราคิดว่านี่น่าจะเป็นความหมายของ Turn on… Tune in…Drop out ในแบบของเรา ซึ่งคงไม่ค่อยตรงกับของ Timothy Leary เจ้าของคำพูดนี้สักเท่าไหร่

บ้านนี้เป็นที่พำนักของ “รงค์ วงษ์สวรรค์”นักเขียนในตำนานของเมืองไทยที่ใครๆ ให้สมญานามว่าพญาอินทรีย์ แม้ว่าในวันนี้ คุณรงค์ ไม่ได้อยู่ต้อนรับมิตรรักนักอ่านแล้ว แต่อาหารเมนูอร่อยของคุณรงค์ ที่เคยทำต้อนรับเพื่อนพ้องฝีมือของมาดามวารินชำราบ หรือป้าติ๋ม สุมาลี วงษ์สวรรค์ ยังคงอยู่

ที่นี่จึงเป็นพื้นที่ปรุงอาหารตำรับรักของผู้ที่เป็นทั้งภรรยาและแม่ที่มีความรักมากมายที่จะมอบความอบอุ่นหัวใจให้กับทุกคน

เหตุเพราะวันที่ไปเดินทางไปกับคุณพี่ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ลูกหาของคุณรงค์ และสนิทสนมกับป้าติ๋มอยู่แล้ว เราจึงได้กินอาหารหลายเมนูมาก ในที่นี้อยากจะขอพูดถึงอาหารเมนูหลักก่อน คือถ้าโทรจองที่สวนทูนอินเขาจะมีเมนูหลักเป็นเซ็ทคือ มีอาหาร 4 อย่าง ของว่าง 1 เรียกน้ำย่อย 1 เครื่องดื่ม Welcome drink 1 ของหวาน 1 ในราคา 500 บาท มาคนเดียวก็ได้กิน

อาหารเมนูหลัก


เริ่มต้นด้วย Welcome Drink น้ำเสาวรส (บางทีก็จะเป็นน้ำบ๊วย) ตามด้วย ม้าห้อ เครื่องผัดปั้นก้อนวางมาบนส้มผ่าซีก รสหวานอมเปรี้ยว ให้ความรู้สึกสดชื่นพักเหนื่อยจากการเดินทาง และเพื่อเป็นการผ่อนคลายก่อนไปถึงอาหารมื้อหนัก ป้าติ๋มจึงจัดหน้าแตงโมมาแบบโฮมเมดคว้านเป็นก้อนๆ เทเครื่องปลาป่นลงไป ทั้งกรุบกรอบและฉ่ำหวาน เป็นของเรียกน้ำย่อย
จากนั้นจานหลักก็ทยอยมาพร้อมข้าวสวยร้อนๆ นั่นคือ ยำผักกูดที่ปรุงยำมาพอดีๆ ด้วยความที่สวนทูนอินนี้ค่อนข้างจะชื้นเลยปลูกผักกูดได้ดีเราก็เลยได้กินผักกูดที่สดหวานจริงๆ จากนั้นก็ถึงจานปลาช่อนทอดน้ำปลายำ เวลากินก็เอาปลาช่อนทอดกรอบๆ มาราดด้วยน้ำปรุง เป็นจานเด็ดที่เราชอบมาก แล้วก็ซดแกงส้มเปลือกแตงโม กินกับซี่โครงหมูอบกระหล่ำปลี รสชาติไปด้วยกันสวยๆ ต้องขอชมว่าเป็นสำรับที่มีรสดับร้อน ทำให้เราไม่หนักตัว แถมยังสบายใจเพราะได้กินอาหารปลอดผงชูรส

อาหารเมนูพิเศษ
****อาหารที่เราไปกินชุดนี้ต้องโทรคุยกันกับที่ร้านก่อนเท่านั้นไม่ได้มีขายในเวลาปกติ***
เราชอบอาหารเซ็ทนี้มากเพราะส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่หากินได้ยาก นับว่าการเดินทางมาพร้อมท่านพี่นั้นช่างมีบุญปากเสียจริงๆ

๐ ต้มกะทิหน่อไม้ดองใส่เนื้อเค็ม ต้องขอบอกว่าอยากจะกราบแนบอกป้าติ๋ม ช่างเป็นแกงหน่อไม้ดองที่นุ่มนวลผู้ดิบผู้ดีที่สุดเท่าที่เคยกินมา มันละมุนไปหมด มีความอูมามิจากเนื้อเค็มออกมารวมกับความนัวกลมของน้ำกะทิ คือ ช้อนแรกก็น้ำตาไหล

๐ หมี่กะทิอุบล คนเมืองอย่างเราที่ไม่เข้าใจขนมจีนซาวน้ำ กลับมีความเข้าใจหมี่กะทิอุบล เป็นเรื่องน่าตลกและย้อนแย้งมาก ที่ชอบเพราะเส้นหนึบดี และมีทางเลือกทางรสชาติมาให้เราแบบใจกว้าง เพราะน้ำราดที่มาด้วยนั้นกลมกล่อมอารมณ์เหมือนแกงที่ไม่ใสไม่ข้น แต่รสบางๆ ราดแล้วเราก็ใส่พริกป่น น้ำปลาอะไรตามใจ

๐ ต้มข่าไก่ใส่หัวปลี อีกจานที่ไม่เคยกินที่ไหน แต่ทัชใจมากๆ หัวปลีว่าทำให้น้ำแกงนัวแล้ว ผสมกับกะทิทำให้นวลไปอีก รสเปรี้ยวเผ็ดลงตัวกลมกล่อม

ที่เหลือจะเป็นเมนูต่อไปนี้ (ไม่ใช่ว่าไม่อร่อยแต่เราปักใจชอบจานข้างบนไปแล้ว และคิดว่าเขียนยาวมากไปแล้ว 555)
๐ หลนแหนม
๐ แกงเทโพหมูสามชั้น
๐ ปลาช่อนทอดราดพริกขิง
๐ แกงเขียวหวานโรตี
ไปอุ่นท้องอิ่มใจ ในธรรมชาติที่สวนทูนอินกันค่ะ


Tune in Garden

เปิด 9.00-17.00
โทร 087 185 2951

You Might Also Like