อร่อยติดตลาด ณ กาดมิ่งเมือง ชุมชนล่ามช้าง

อร่อยติดตลาดที่กาดมิ่งเมือง

ในยุคข้าวยากหมากแพงนี้ เงิน 50 บาท เดินเข้าร้านอาหารในเมืองบางร้านก็ไม่แน่ใจแล้วว่าจะมีอาหารราคานี้ หรือถ้ามีก็ไม่แน่ใจแล้วว่าจะกินอิ่ม โดยเฉพาะผู้หญิงผู้เป็นโรคกระเพาะ (คราก 555) ครั้งนี้มาเดินเล่นที่กาดมิ่งเมืองสำรวจราคาอาหารแต่ละร้านคือสบายกระเป๋าสุดๆ แต่ออกจากบ้านที่แม่โจ้มาตั้งไกล จะมากินจุ๊บจิ๊บก็ใช่ที่ และจะใช้วิธีการหาข้อมูลแบบเดิมๆ ด้วยการกูเกิ้ล ก็น่าเบื่อไปหน่อย เลยคิดว่าจะเริ่มจากร้านที่ 1 กินเสร็จแล้วถามคนในตลาดนั่นแหละ ว่ากินร้านไหนบ่อยที่สุด แล้วทำอย่างนี้ต่อๆ ไปเป็นลูกโซ่ เพราะคนที่อยู่ที่เดิมๆ ทุกวันย่อมรู้ดีกว่าเรา

นี่แลดูเป็นผู้ที่ร่ำรวยเวลาและอุทิศชีวิตให้การกินมาก555 …อย่าเสียเวลา มาเริ่มกันเลย


“เหนือกระบี่คือไร้กระบี่” คือนิยามที่เราให้กับป้าไร ป้าขายขนมจีนมาร่วม 40 ปี โดยเริ่มต้นจากการทำน้ำเงี้ยวไม่เป็นเลย แต่ไม่รู้จะไปทำอาชีพอะไร ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ ค่อยๆ ฝึกฝน จนมาเปิดร้านแรกข้างวัดดอกเอื้อง มูลเมืองซอย 5 เมื่อปี 2515 เราทันได้ไปกินสาขาแรกจำได้เลยว่า การไปกินร้านป้าไรช่วงเที่ยง คือ ช่วงเวลาเก้าอี้ทองคำ ฉกฉวยเก้าอี้กันอย่างเมามันส์ ต้องนั่งกินศอกชนศอกที่จอดมอเตอร์ไซค์ยังแทบไม่มี แฟนคลับของป้าล้นหลามมากจากคนที่ทำขนมจีนน้ำเงี้ยวไม่เป็นเลย

ความสำเร็จนอกเหนือจากความพยายามคือ ความช่างเลือกของป้าไร แกจะเลือกแต่ของที่กินแล้วอร่อยกินแล้วรู้สึกว่ามันมีคุณภาพดี เมื่อเลือกแล้วก็ใช้บริการกันยาวๆ ไป ตั้งแต่ร้านเส้นขนมจีนต้องเป็นเส้นที่ผลิตที่แม่มาลัยเท่านั้น แคบหมูและหนังปองจากดอยสะเก็ด

ตอนนี้ป้าไรอายุ 72 แล้วยังคงตื่นเช้ามาก่อไฟในตลาด ขายขนมเส้นน้ำเงี้ยว น้ำยา น้ำแกงเผ็ด แกงเขียวหวาน และขนมหวานพวกลอดช่อง รวมมิตร พอข้าวซอยดังตอนนี้ป้าก็ขอเอี่ยวส่วนแบ่งการตลาดกับเขาด้วย ป้าเล่าว่าเดี๋ยวนี้ยังดี มีเท่านี้ เมื่อก่อน คิดการใหญ่ขายทุกตำด้วย ตอนนั้นหมุน 360 องศาไปเลย แบบหนมจีนก็ต้องทำ ตำก็ต้องควงสาก ใครอยากรวมมิตรก็ต้องจัด ช่วงหลังชักไม่ไหว ตัดสเตชั่นยำไปรู้สึกเหนื่อยน้อยลงไปมาก เพราะถึงแม้มีลูกสาวมาช่วยแต่คนก็รีเควสมือตำเป็นป้าอยู่ดี

ใครอยากลองชิมน้ำเงี้ยวแบบคนเมือง รสชาติกลมกล่อมกำลังดีไปลองชิมป้าไรได้ที่กาดมิ่งเมือง ทั้งน้ำเงี้ยว และข้าวเงี้ยวจัดได้ว่าเลิ่ดมาก ข้าวเงี้ยวถ้าไปช้าจะหมดเร็วมาก

ป้าไรย้ายมาอยู่ชุมชนล่ามช้างได้หลายปี เพราะชุมชนนี้เขารักสามัคคีกันดี อยู่แล้วรู้สึกอบอุ่นใจ


#ก๋วยเตี๋ยวอินดี้

#ก๋วยเตี๋ยวน้องแจ้


หญิงสาวผู้ยึดถือคอนเซ็ปท์ “กล้าสั่ง ก็กล้าทำ ” นอกจากนี้ใครที่เป็นแฟนคลับน้องแจ้ยังรู้ดีอีกว่า “เหนื่อยก็ปิด ทำไหวก็เปิด ยึดถือความเสมอภาค ใหญ่มาจากไหนก็ไม่ให้ลัดคิว” ป้าไรกระซิบบอกเราก่อนว่า ป้าชอบกินร้านนี้มาก…อร่อย แต่ก็นะ เขาอินดี้ เป็นไงเป็นกันจัดกันเลย

ประเดิมด้วยเมนูแนะนำของป้าไรที่กินประจำ คือ บะหมี่ต้มยำ ลวกเส้นดีมาก ปรุงรสเปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวาน คือ รวมตัวกันมากำลังดีเป็นรสกลางที่อร่อยแล้วแบบว่าไม่ต้องปรุงเพิ่มเลย จากนั้นเราก็มาลองบะหมี่แห้งบ้าง คือเด็ดพอกัน หัวใจคือการลวกเส้นที่หนึบมาก ที่ชอบคือน้ำซุป น้องแจ้ทำน้ำซุปด้วยกระดูกหมู กระเทียม พริกไทยรากผักชี ซีอิ๊วขาว น้ำตาลกรวด ไม่ใส่ชูรสแต่ใส่รสดีนิดหน่อยสมานรส ส่วนสูตรก๋วยเตี๋ยวนั้นเธอได้มาจากสูตรของป้า ที่เคยเปิดร้านขายมาก่อนแล้วก็เลิกย้ายที่อยู่ เธอเลยได้เป็นผู้สืบทอดสูตรอร่อย

น้องแจ้เล่าให้ฟังว่าทำร้านก๋วยเตี๋ยวคนเดียวมา 20 ปีแล้ว ขายแบบทำให้เพื่อนให้ญาติพี่น้องกิน เธอว่าความพิเศษของเธอคือทำตามใจคนกินได้ บางคนอยากกินต้มยำแบบ ไม่เผ็ด ไม่หวาน ไม่เปรี้ยว บางคนอยากกินก๋วยเตี๋ยวผสมมาม่า ได้สิ…กล้าสั่ง ก็กล้าทำ บางคนอยากกินน้ำตกต้มยำ เย็นตาโฟต้มยำ เย็นตาโฟแห้งต้มยำ มีทุกรูปแบบครีเอทเมนูกันมา น้องแจ้จัดให้ได้ทุกกระบวนแบบไม่ให้เสียน้ำใจ แต่ถ้ามาตอนเที่ยงที่ยุ่งมากๆ สำหรับขาประจำที่หิวจัด ก็มาลวกลูกชิ้นล้วน ไปกินกันเอง ใครกินเกาหลาก็มาลวกผักลวกลูกชิ้นเองได้เลย เพราะน้องแจ้เธอว่า เกรงใจคนรอที่หิว แต่จะให้มาลัดคิวก๋วยเตี๋ยวที่เธอวางไว้ เป็นไปไม่ได้ นี่คือกฎเหล็กของเธอ

น้องแจ้บอกเราว่าบางทีการทำก๋วยเตี๋ยวคนเดียวทั้งวันมันเหนื่อย วันไหนเหนื่อยมากๆ ก็หยุดจากที่หยุดวันอาทิตย์เป็นประจำอยู่แล้ว แต่เธอมีไลน์กลุ่มของลูกค้าที่แจ้งกันไว้ก่อนว่าจะหยุด เพิ่งได้ยินก็คราวนี้ว่าร้านก๋วยเตี๋ยวก็มีไลน์กรุ๊ปกับเขา น้องแจ้ว่า ที่ต้องมีเพราะช่วงโควิดต้องตรวจและส่งผลตรวจโควิดให้ลูกค้าเพื่อความสบายใจ…ถึงจะอินดี้ก็มีใจดูแลลูกค้านะเออ


#วิกฤตกำเนิดตามสั่ง

#แอมอาหารตามสั่ง


ร้านนี้แนะนำโดยเจ้าของตลาด และคนเดินผ่านไปผ่านมาที่เราแอบไปถาม ร้านนี้ที่นั่งไม่เคยว่าง มีทั้งลูกค้าไทยฝรั่งมานั่งกินกันไม่ขาด แถมยังมีข้าวกล่อง คนสั่งกลับบ้านจำนวนมากๆ

พี่แอมแกขายอาหารทะเลอยู่แล้ว ตามหลักผู้บริหารหัวก้าวหน้านอกจากอาหารทะเลที่ มีลูกค้าประจำมาสั่งตลอดเวลาแล้ว ในช่วงโควิดจะมารอรับรายได้ทางเดียวยังไงไหว เธอจึงขยายพื้นที่ จากแผงอาหารทะเล เพิ่มเติมเป็นร้านอาหารตามสั่ง ไม่ต้องห่วงเรื่องของขาด เพราะร้านอยู่ในตลาดอยากได้อะไรก็ไปสอยมา เมนูของเธอจึงกว้างเป็นมหาสมุทร อยากกินอะไรถ้าวัตถุดิบมีในตลาดย่อมเป็นไปได้อยู่แล้ว ผนวกกับการเป็นผู้ค้าอาหารทะเลเอง เธอก็เอาวัตถุดิบจากร้านตัวเองมาขายก็จบ รับกระเป๋าซ้าย จ่ายกระเป๋าขวา ได้เต็มๆ คนเดียว


เมนูที่ลูกค้ามักจะสั่งคือ ต้มยำกุ้ง ข้าวผัด และ ผัดซีอิ๊ว คือถ้านั่งอยู่ในตลาด กลิ่นของอาหาร จะทำให้เราสาวเท้าเข้าไปติดกับพี่แอมได้ไม่ยาก


นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารตามสั่งที่ร้านขายของต่างๆ ก็แนะนำอยู่ใกล้ๆ กับร้านพี่แอม เป็นร้านที่ขายราดหน้าอร่อย แบบที่ไม่ใช่ราดหน้าที่ขายเป็นหม้อๆ แต่ทำจานต่อจาน เป็นรสบ้านๆ แบบที่พ่อแม่ทำให้กิน ร้านอาหารในตลาดมิ่งเมืองเป็นที่พึ่งของพนักงาน ที่ทำงานอยู่ใกล้ๆ ด้วยปริมาณที่เหมาะสม ราคาที่ย่อมเยา ทำให้ตลาดนี้ค่อยๆ ผันจากตลาดขายของสด เริ่มมีร้านอาหารรายย่อยราคาไม่แพงมาให้บริการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราจึงอยากชวนคุณมาลองบรรยากาศตลาดแบบ บ้านๆ ที่ทุกคนดูเหมือนรู้จักกันหมด กินไปฟังเรื่องคนนั้นคนนี้ไป เหมือนละครซิทคอม 555 สำหรับคนร่ำรวยเวลาและอารมณ์นึกสนุก มันเพลินมากบอกเลย

#ตลาดมิ่งเมือง #ชุมชนล่ามช้าง #กาดมิ่งเมือง

You Might Also Like