ปริศนาแกงฮังเล จากพลัดถิ่นเป็นพื้นถิ่น สู่สำรับคลาสสิคที่เอื้องคำสาย
เพื่อที่จะลองหาดูว่าลักษณะของแกงฮังเลที่เรารู้จักมีที่มาที่ไปอย่างไร และทำไมแกงฮังเลเชียงแสนจึงหน้าตาผิดฝาผิดตัวกับแกงฮังเลที่เราคุ้นเคยไปมากมาย แกงฮังเลที่แถวบ้านเรากินนี้เขาเรียกว่า “แกงฮังเลม่าน” ซึ่งหมายถึงแกงของพม่า (ม่านหมายถึงพม่า)
จึงเริ่มค้นหาข้อมูลจากหลายๆ แหล่ง รบกวนชาวเมียนมาร์ ชาวไทใหญ่ หลายคน ได้ความว่า
จากฐานข้อมูลอาหารพื้นบ้านล้านนา โดย ศูนย์สนเทศภาคเหนือ สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบข้อมูลว่า “แกงฮังเลมี 2 ชนิด คือ แกงฮังเลม่าน และ แกงฮังเลเชียงแสน เชื่อกันว่าเป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลมาจากพม่า สำหรับแกงฮังเลเชียงแสนจะแตกต่างตรงที่มีถั่วฝักยาว มะเขือยาว พริกสด หน่อไม้ดอง งาขาวคั่ว เพิ่มเข้ามา (รัตนา พรหมพิชัย, 2542, หน้า 490) และใช้เป็นส่วนผสมของแกงโฮะ (เทียนชัย สุทธนิล, สัมภาษณ์, 19 มิถุนายน 2550)”
ส่วนข้อมูลจากวารสารวไลย (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ อลงกรณ์ปริทัศน์ ปีที่ 9 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม-สิงหาคม 2562) ได้กล่าวว่า แกงฮังเลนั้นได้รับอิทธิพลจากพม่าและแคว้นสิบสองปันนาในประเทศจีน ซึ่งคำว่า “ฮีน” แปลว่าแกง และ “เล” แปลว่าเนื้อสัตว์ ซึ่งในวาสารฉบับนี้ได้กล่าวว่า “มีความขัดแย้งกับผลการศึกษาของอุบลรัตน์ พันธุมินทร์ (2542 ) ซึ่งพบว่า “แกงฮังเล” ของคนล้านนาซึ่งในภาษาพม่าเรียกว่า “แวะตาฮีน” โดยที่ “แวะตา” หมายถึง “เนื้อหมู” ส่วนคาว่า “ฮีน” หมายถึง “แกง” ความหมายโดยรวมจึงหมายถึง “แกงหมู” และหากใช้เนื้อวัวเป็นวัตถุดิบก็เรียกว่า “อะแมตาฮีน” ทั้งนี้จากการรวบรวมข้อมูลที่มีผู้ได้ทำการศึกษายังพบว่า “ฮินเล” ไม่ได้มีความหมายถึง “แกงฮังเล” แต่ “ฮินเล” ในความหมายของพม่า หมายถึง การนำเอาแกงที่เหลือหลากหลายชนิดมารวมกัน และทำการปรุงใหม่อีกครั้ง ซึ่งมีความหมายตรงกับ “แกงโฮะ” ของล้านนา ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า “แวะตาฮีน” ในภาษาพม่า มีความหมายตรงกับ “แกงฮังเล” ในขณะที่ “ฮินเล” ในภาษาพม่ามีความหมายตรงกับ “แกงโฮะ” ในความหมายของคนล้านนา”
ทว่าอ่านไปแล้วก็ยังสงสัยอยู่ จึงทดสอบด้วยภาษาพม่าเอง ด้วยการเอาคำว่า ฮินเล ဟင်းလေး ภาษาพม่า ที่คัดลอกมาจาก วิกิพีเดีย และ ลองเอารูปไปสืบค้นในกูเกิล ได้คำพม่ามาอีกคำ คือ ဝက်သားဟင်း เป็นคำอ่านจากกูเกิล แปลภาษาว่า waat-sarr-hainn (คนเมียนมาร์บอกว่าอ่านว่าแวะตาฮีน) จากนั้นจึงเอาสองคำนี้ไปให้ชาวเมียนมาร์สองท่านดู
ท่านหนึ่งเป็นกูรูด้านอาหารอยู่ที่ย่างกุ้ง และอีกท่านเป็นพระภิกษุชาวเมียนมาร์ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยถามว่า ถ้าเห็นคำสองคำนี้จะให้คำนิยามว่าอย่างไร ซึ่งทั้งสองท่านให้คำตอบที่ใกล้เคียงกันดังนี้
ฮินเล ဟင်းလေး
แวดตาฮีน Wet Tha Hinn ဝက်သားဟင်း
แวดตาฮีนชิน Wet Tha Hmyit Chin ဝက်သားမျှစ်ချဥ်
จากการสอบถามดังกล่าว ก็ได้ลองถามไปยังคนเชียงแสนดั้งเดิมที่อยู่เชียงแสนและยกครัวมาอยู่เชียงใหม่ ก็ได้คำตอบว่าไม่รู้จักแกงฮังเลเชียงแสน หรือ แวดตาฮีนเลย ดูจากการเรียกแกงผักนี้ต่างกันหลายพื้นที่มาก ถือเป็นปัญหาโลกแตก เพราะชาวอุษาคเนย์อย่างเราไม่ค่อยจดบันทึก ผู้เขียนจึงขออนุญาตสรุปเองโดยพึ่งหลักฐานจากบุคคลรอบด้านว่า แกงฮังเลเชียงแสนที่กล่าวถึงกันในเอกสารต่างๆ และในเมนูของร้านเอื้องคำสาย น่าจะมีต้นทางมาจาก แวดตาฮีนชิน ของพี่น้องชาวไตที่ฉานสเตท เพราะมีความเป็นไปได้สูงที่สุด โดยเทียบจากภาพและภาษาที่เรียก แต่หากใครมีข้อมูลมากกว่านี้เอามาแชร์กันได้เลยค่ะ
แต่จะเรียกอย่างไร แกงฮังเลก็ถือเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมร่วมของชาวล้านนาและชาวเมียนมาร์ที่เดบิ้วต์ผลงานร่วมกันนานหลายร้อยปี และยังคงสืบสานทำกันต่อให้เราได้อร่อยกันในวันนี้