โภชนทรมานด้วยอาหารเยอรมัน
บุฟเฟต์ไลน์ ตระการตาที่ Auf de Au
อาหารเยอรมันแท้ๆ ในเชียงใหม่หากินได้ไม่กี่ร้าน ส่วนใหญ่ไม่ใช่อาหารเยอรมันไก่กา เป็นอาหารเยอรมันจริงๆ ที่จานใหญ่ หนักเนื้อ เมื่อก่อนติดใจร้าน Nobody ตอนหลังเจ้าของร้านเขาย้ายจังหวัดไปแล้ว เสียดายมากๆ การไปกินอาหารเยอรมันสำหรับคนไทยนั้นต้องเตรียมตัว…ใช่ค่ะฟังไม่ผิด มันต้องมีการทำให้ท้องว่างและหิวมากๆ ไปก่อน เพราะถ้าพอดีๆ ไปจะเสียใจที่ยังมีอีกหลายอย่างยังไม่ได้กิน โดยเฉพาะที่ Auf de Au ร้านอาหารเยอรมันเล็กๆ ที่มีบุฟเฟต์ไลน์อลังการมากๆ
ฉันรู้จักร้านนี้ตอนที่ตามหาร้านอาหารเยอรมันไปออกบูธงานอาหารนานาชาติเมื่อปี 2011 ตอนนั้นร้านเพิ่งเปิด เจ้าของร้านต้องเดินทางไปต่างประเทศด้วยเลยไม่ได้ไปร่วมงาน หลังจากนั้นเกือบปีได้กลับไปที่ร้านอีกครั้ง ไปลองกินอาหารเยอรมันบุฟเฟ่ต์ ตอนนั้นพลาดที่ไม่ได้ทำการบ้านมาก่อน กินได้น้อยและจุกมาก เสียดายเพราะยังมีอีกหลายอย่างที่อยากกิน เอาละพอรอบที่ตั้งใจไปนี่ งดอาหารเย็น เพื่อกินอาหารเที่ยงวันถัดไป…ลงทุนขนาดนั้นกันเลย
ขนมปังอบใหม่หอมๆ และ Cold Cut มากมาย
ด้วยความที่ไม่ค่อยประสาอาหารสัญชาตินี้เท่าไหร่ เลยไปลองค้นข้อมูลจากหนังสือที่เพื่อนชาวอเมริกันคนหนึ่งให้มาเมื่อนานมาแล้ว หนังสือชื่อ Russian, Polish & German Cooking โดย Lesley Chamberlain ในหนังสือ มีแผนที่การเดินทางของอาหาร เพียบพร้อมไปด้วยสาระ แต่เอาง่ายๆ แบบสรุปๆ คืออาหารเยอรมันนั้นผ่านมาหลายยุคสมัยก็ได้รับอิทธิพลจากเพื่อนบ้าน ท้องที่ไหนใกล้ประเทศอะไรก็มักจะได้รับอิทธิพลจากประเทศนั้นๆ อาหารที่ Auf de Au เป็นอาหารสวิสเยอรมัน กล่าวคือเป็นอาหารเยอรมันแบบทางใต้
ไส้กรอกเยอรมัน
ชาวเยอรมันกินหมูมากกว่าชาติอื่นๆ จึงมีทักษะเป็นเลิศในการถนอมอาหารที่ทำจากเนื้อหมู ที่เรารู้จักกันดีก็คือไส้กรอกเยอรมัน ที่พวกเขาเรียกว่า Wurst ปัจจุบันมีการทำไส้กรอกหลากหลาย มีการผสมเนื้อสัตว์และเครื่องเทศอื่นๆ ไปด้วย นอกเหนือจากไส้กรอก การถนอมอาหารก็แตกไลน์ไปเป็นพวก Cold Cut ต่างๆ มากมาย และอีกอย่างที่หลายคนชื่นชอบคือ ขาหมูเยอรมัน หรือ Scheweinshaxe (เชื่อกันกว่าขาหน้าจะอร่อยกว่าขาหลัง) มักจะเสิร์ฟมาพร้อมกับกระหล่ำปลีดอง หรือ Sauerkraut ส่วนอาหารประเภทแป้งนั้น ที่เรียกว่าเป็น Signature ของเยอรมันเลยก็ได้คือขนมปังดำ ที่ทำจากแป้งเรย์ ด้วยความที่ไม่ใช้ยีสต์ ขนมปังชนิดนี้จึงหนัก กินแล้วอิ่มจุกกันไปข้างหนึ่ง อีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือ พาสต้า เส้นพาสต้าของเยอรมันเรียกว่า Spätzle ค่ะ หน้าตาคล้ายๆตัวหนอน
กูลาซหมู ผักโขม และ Spätzle
ส่วนอาหารจานเนื้อแบบเยอรมันจ๋าๆ เลยก็ได้แก่พวกตุ๋นกับหม้อ Casserole หม้อตุ๋นของฝรั่ง ที่โด่งดังก็คือ กูลาซ Goulash ทำได้กับทั้งเนื้อ หมู ไก่ อาหารแนวอบก็ได้แก่ Schweinsbraten เนื้อหมูม้วนอบ บางทีก็ยัดไส้ด้วยลูกพรุน ที่ร่ายมานี่ ทาง Auf de Au มีหมดเกือบทุกจาน เห็นบุฟเฟต์ไลน์แล้ว ถือจานมือสั่นเลยทีเดียว ไม่รู้จะเริ่มจากที่ไหนก่อน
ส่วนหนึ่งของ Cold Cut ไม่ได้ตักมาทั้งหมด…กลัวใจ
เห็นบุฟเฟต์ไลน์ยิ่งใหญ่รัชดาลัยแบบนี้เลยอดถามไม่ได้ว่า เจ้าของร้านจะตื่นมาทำ กี่โมงเอาเวลาที่ไหนไปซื้อของ คุณ Chef Nichts เธอบอกว่าก็ทำไปเรื่อยๆ ทำเองตั้งแต่ ขนมปังต่างๆ ของตุ๋น ของอบ ขนมนมเนยที่เห็น คือ จานที่วางอาหารอาจจะดูไม่ค่อยฟูมาก แต่เน้นที่หลากหลายค่ะ เพื่อนบอกว่าแค่หยิบกินจานละชิ้นนี่ แบ้งค์พันตกก็ก้มเก็บไม่ได้นะคะ อิ่มเกิน
Schnitzel ปลาชุบเกล็ดขนมปังทอด
กับผักดองสีต่างๆ
สำหรับคนที่ไม่ค่อยถนัดอาหารรสเค็มแต่พอเห็นเนื้อตุ๋น เห็นของทอดแล้วตักมาเต็มพิกัด ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าอาหารส่วนใหญ่ของที่นี่จะรสเค็มนำค่ะ ดังนั้นแนะนำว่าให้ตักเนื้อมาแต่พอประมาณ ตักสลัด ตักผักดองมาแกล้มเยอะ หน่อย เพราะตักเนื้อมาเยอะๆ อาจจะสู้รสเค็มไม่ไหว กินไม่หมด ก็สงสารหมูไก่จะตายฟรีเอา
ไก่อบและผัดผัก
นอกเหนือจากอาหารจานเนื้อ แบบเต็มพิกัดแล้ว ที่นี่ยังมีสลัดผักหลายรูปแบบ ซึ่งคณะกินที่ไปกันให้ความสำคัญค่อนข้างน้อย เพราะมัวแต่ตื่นเต้นกับพวกเนื้อๆ และที่สำคัญ ของหวานค่ะ เร้าใจมากๆ ชิ้นใหญ่ คำโต มีหลากหลายรูปแบบ เรียกว่า กินคาวสลับหวาน กินหวานสลับคาว กินเหมือนกลัวใครแย่งกิน กินเหมือนจะไม่มีวันพรุ่งนี้
ไอเท่มนี้อร่อยนุ่มหอมมาก ไม่รู้ว่าจะเรียก Choux Creme หรืออะไรดี
Black Forest หรือ Schwarzwald Signature ของชาวเยอรมัน พี่จะตัดชิ้นใหญ่ไปไหนคะ หนูกินไม่หมด….
บุฟเฟ่ต์ เต็มรูปแบบ มีเฉพาะวันศุกร์ – เสาร์ เริ่ม 17.30 น. แต่ วันอาทิตย์จัด 2 รอบ เริ่ม11.30น. และ 17.30 น.ในราคา 269 บาท ราคานี้รวมสลัด ออร์เดิร์ฟ ผลไม้ เค้กสไตล์เยอรมัน และซุป อาหารหลักสไตล์เยอรมัน กาแฟ น้ำดื่ม สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0856234366 ติดตามเพจของร้านได้ที่ https://www.facebook.com/aufder.au อร่อย…. ไปกันค่ะ
แผนที่