Cafe des Artists ศิลปะแห่งการกิน อยู่ คือ

Cafe des artists

“Je pense donc je suis” เป็นคำพูดของ René Descartes นักปรัชญาชาวฝรั่งเศสที่อุทานเมื่อได้ค้นพบตัวเองว่า “ข้าพเจ้าคิด ดังนั้นข้าพเจ้าจึงมีตัวตน” สำหรับชูชกแล้วนั้นต้องอุทานว่า “Je mange donc je suis” ข้าพเจ้ากิน ดังนั้นข้าพเจ้าจึงมีตัวตน ในเมื่อชัดเจนในตัวตนแล้ว ก็ต้องชัดเจนในปรัชญาแบบชูชกว่า “ไม่อร่อย ไม่เอาเข้าปาก” จึงเป็นที่มาของการ ค้นหาปรัชญาของการกิน อยู่ คือ เพื่อให้บรรลุความเป็นชูชกแบบชิคๆ คูลๆ โดยเสาะหาร้านที่งามตาและอิ่มท้องไปด้วย แล้ววันหนึ่งก็มาพบกับ Café des Artists ร้านอาหารที่ สวยรุ่มรวยงานศิลป์ อาหารอร่อย และเหมาะสมคู่ควรกับฐานะ ของชูชกอย่างแท้จริง 

บรรยากาศเมื่อมองออกไปนอกร้าน ตกแต่งแบบผสมผสานดูแล้วออกแนวเซน แต่ภาพรวมของที่นี่ดูเหมือนจะเป็นแนว Sino Colonial มากกว่า

บรรยากาศเมื่อมองออกไปนอกร้าน ตกแต่งแบบผสมผสานดูแล้วออกแนวเซน แต่ภาพรวมของที่นี่ดูเหมือนจะเป็นแนว Sino Colonial มากกว่า

ร้าน Café des Artists นั้นไม่ได้อยู่แบบ Stand alone แต่ร้านอยู่ในโรงแรม Hotel des Artists, Ping Silhouette เมื่อ ได้ยินคำว่าโรงแรม หลายๆ คนอาจจะเหมารวมว่า อาหารโรงแรมก็เหมือนกันหมด ซึ่งอันที่จริงอาหารโรงแรมทั่วไปนั้นไม่มีอะไรผิด เพียงแต่คนที่โหยหาอาหารที่ไม่ได้อยู่ในระบบอุตสาหกรรม หรือแบบที่เรียกว่าอาหารโฮมเมดแบบรสมือแม่ เวลากินแล้วมันรู้สึก อิ่มๆ อุ่นๆ ไม่จำเป็นต้องหรูหรามาก แต่เป็นอาหารที่กินได้ทุกวันไม่เบื่อ ก็น่าจะต้องจริตกับที่นี่ อาหารแนว Everyday Food ที่หน้าตาสะสวย ราคาคบกันได้ เนื่องจากที่นี่เป็นโรงแรม เวลาเปิดปิดจึงมีระยะยาวนานกว่าร้านอาหารทั่วไป เรามาลองดูกันเป็นตารางเวลาเลยว่า ใน 1 วัน ฉันจะกินอยู่คือ ณ ที่แห่งนี้ได้อย่างไร

โจ๊กฮ่องกง ที่มีลูกค้าบางคนสั่งกินติดกันถึง หกชาม!!!!!

โจ๊กฮ่องกง ที่มีลูกค้าบางคนสั่งกินติดกันถึง หกชาม!!!!!

8.00 ช่วงเวลาดีๆ ของโจ๊ก และขนมปัง

เซ็ทอาหารเช้าของที่นี่อลังการไม่เบาเลยทีเดียว มีทั้งสลัด ขนมปัง ผลไม้ กาแฟ น้ำส้ม แต่ไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เลย กลับกลายเป็น โจ๊กข้าวกล้องเนื้อเนียนๆ แต่ไม่ละเอียดเหลวเป๋ว รสชาติละมุนสะอาด คือกินคำแรก คิดเลยว่าไม่อยากจะใส่อะไรลงไปในข้าวแล้ว เพราะข้าวหอม และปรุงรสมาดีมาก ด้านหน้าโรยด้วยหมูหยอง กุนเชียง ไข่เยี่ยวม้า เห็ด และผัก ถ้าจะปรุงจริงๆ แบบว่าติดรสเค็มฉันคิดว่าโจ๊กถ้วยนี้เหมาะกับเกลือ ใส่ไปนิดเดียวเพื่อตัดหวานจากเครื่องที่ใส่จะชูรสมาก ส่วนกาแฟนั้นชงได้ดีอยู่แล้ว เพราะฉันเคยนัดลูกค้าหลายรายมาประชุมที่นี่เพียงเพื่อมากินกาแฟร้อนอย่างเดียว

ชุดอาหารเช้าจัดเต็ม

ชุดอาหารเช้าจัดเต็ม

สำหรับคนที่นิยมกินขนมปังร้อนๆ ในตอนเช้า กับชาหรือกาแฟ อยากจะชวนกินขนมหน้าแปลกอันนี้ ชื่อ Taiwan Bread ซึ่งคุณอาจจะหากินขนมปังนี้ไม่ได้ ในใต้หวัน…งงมะ คือเจ้าของร้านเขามีเพื่อนเป็นคนไต้หวันและได้ทำขนมปังสูตรนี้ให้กิน เลยได้ชื่อนี้มา เจ้าขนมปังนี้มาจากการตีเนยครีมและน้ำตาลเอามาทาที่ขนมปังโฮลวีทแล้วเอาไปอบ หน้าจะไหม้ๆ หวานนิดๆ มันหน่อยๆ ฉันกินกับชาร้อนแล้วพบว่ามันดีมากทีเดียวชอบที่ไม่หวานมากนัก

ขนมปังไต้หวัน ที่ไม่มีในไต้หวัน มีที่นี่ที่เดียว

ขนมปังไต้หวัน ที่ไม่มีในไต้หวัน มีที่นี่ที่เดียว

12.00 จานเดียว…ก็เต็มเหนี่ยวได้

มื้อเที่ยงนั้นเหมาะกับอาหารที่กินด่วน กินเร็วที่ Café des Artists เลื่องลือเรื่องบะหมี่ เส้นบะหมี่เล็กนุ่มเหนียว และตัวบะหมี่นี่เองก็เอาไปกินร่วมกับอีกหลายๆ อย่าง ไม่อยากจะพิมพ์ให้มากความ ตอนนี้ดูรูปน้ำลายไหลย้อยมาถึงศอก รูปอาหารของที่นี่ตอนเอามาใส่ลายน้ำ ทรมานมาก แค่เห็นก็หิวแล้ว ให้รูปเล่าเรื่องก็แล้วกันนะคะ

บะหมี่หนำเลี๊ยบ หอมหวนกลมกล่อม กัดเจอพริกเจอมะนาว แบบว่าหยุดกินไม่ได้เลย

บะหมี่หนำเลี๊ยบ หอมหวนกลมกล่อม กัดเจอพริกเจอมะนาว แบบว่าหยุดกินไม่ได้เลย

หนำเลี๊ยบปกติเราจะเห็นแค่กินกับข้าวต้ม แต่อันนี้เขาเอาม่ใส่บะหมี่ ตัวหนำเลี๊ยบ เป็นวงศาคณาญาติกัยพวกมะกอก เวลาเอามาทำอาหารก็แกะเอาเม็ดออก ถ้าเอามาผัดหมูสับก็เอามาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หอมกระเทียม ใส่พริกมะนาวเข้าไปเพิ่มรส …มันดี อ่า….

 

บะหมี่ซี่โครงหมูอบ รสชาติจะค่อนไปทางหวาน แต่ไม่หวานแหลม

บะหมี่ซี่โครงหมูตุ๋นยาจีนรสชาติจะค่อนไปทางหวาน แต่ไม่หวานแหลม

บะหมี่ผัดกุ้งพุทราจีน หอมกระทะ กุ้งเด้งมาก

บะหมี่ผัดกุ้งพุทราจีน หอมกระทะ กุ้งเด้งมาก

18.00 ดินเนอร์ ในเงาแม่ปิง

เดินทางมาถึงมื่อเย็น มีหลากหลายเมนูมากๆ ที่น่าลอง Porkchop ชิ้นใหญ่ ราคาสองร้อยกว่าบาท กินสองคนยังได้ สปาเก็ตตี้เนื้อเค็ม และอีกมากมายสาธยายไม่หมด เคยมากินไปก่อนหน้านี้แล้วเมื่อตอนโรงแรมเปิดใหม่ๆ เดินออกจากโรงแรม นี่ต้องถอยไปดูป้าย …อ้าว ไม่ใช่มูลนิธิ ฮ่าๆๆๆ อะไรจะถูกขนาดนี้ ครั้งนี้เลยลองชิมของใหม่ๆ บ้าง จานด็ดของที่นี่ได้แก่ ซี่โครงหมูตะไคร้ กลิ่นดี รสออกไปทางหวานนิดๆ และที่ชอบมากคือ การเลือกเอาพรกยัดไส้มากินก่อนจานหลัก จานนี้แนะนำจริงๆ หน้าตาอาจจะเหมือนพริกอั่วบ้านเรา แต่รสชาติข้างในไม่ใช่ จะไม่มีกลิ่นของความไทยในนั้นมากนัก โปรดจานนี้มาก พริกไม่เผ็ดเลยเพราะดึงไส้และเม็ดออกแล้ว

 

พริกยัดไส้ หน้าตาชวนกัดเป็นที่สุด

พริกยัดไส้ หน้าตาชวนกัดเป็นที่สุด

ซี่โครงหมูตะไคร้เปื่อยหอม

ซี่โครงหมูตะไคร้เปื่อยหอม

ตบท้ายด้วย Mocktail หรือ Cocktail เก๋ๆ ก็จะทำให้ค่ำคืนของคุณสมบูรณ์แบบมากขึ้น โดยรวมแล้วแอนคิดว่าอาหารของที่นี่เหมาะกับคนที่ชอบรสอาหารนุ่มนวล ไม่จัดมาก บางจานอาจจะค่อนไปทางหวาน อาหารมันมีกลิ่นอายของอาหารจีนอยู่มากโข ดังนั้นคนที่ชอบอาหารจีนฟิวชั่นหน่อยๆ ไม่น่าพลาดที่นี่ รสมือพ่อครัวเขาดี กลิ่นหอมกระทะไหม้ๆ ในจานผัดนี่จัดเต็มมาก

ม็อกเทลและค็อกเทลเย็นชื่นใจ

ม็อกเทลและค็อกเทลเย็นชื่นใจ

ร้านตั้งอยู่ในโรงแรม Hotel des Artists, Ping Silhouette จากแยกธานินทร์ขึ้นสะพานนครพิงค์เลี่ยวขวา ราวๆ 100 . เมตร โรงแรมอยู่ขวามือ

โทร +66(0)53249999, +66(0)624528222

Page โรงแรมค่ะ https://www.facebook.com/hotel.ping.silhouette

แผนที่

 

You Might Also Like