เมื่อพูดถึงอาหารตะวันออกกลางคนบ้านเรามักเข้าใจว่าเป็นอาหารที่มีกลิ่นฉุนๆ มากด้วยเครื่องเทศทำนองนี้ อันที่จริงอาหารตะวันออกลางนั้น ครอบคลุมอาหารหลายสัญชาติ นั่นคือ อาหารอาหรับ อาหารเปอร์เซีย หรืออาหารอิหร่าน อาหารปาเลสไตน์ อาหารอิรัค อาหารอิสราเอล อาหารเลบานีส อาหารอิยิปต์ อาหารเตอร์กีช อาหารอัสซีเรียน อาหารโซมาลี ถึงแม้ว่าประเทศพวกนี้ไม่ค่อยสมานฉันท์เท่าไหร่ในแถบตะวันออกกลาง แต่อาหารของพวกเขาก็มีจุดร่วมกันอยู่มาก เพราะมีรากเหง้าทางวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกัน จึงใช้วัตถุดิบคล้ายกัน เช่น งา น้ำผึ้ง ถั่วลูกไก่ ใบสะระแหน่ และพาร์สลีย์

ถั่วลูกไก่แช่น้ำไว้ 1 คืน บดแล้วใส่เครื่องเทศ ปรุงรสปั้นเป็นก้อน เอาลงทอดในนำ้มันร้อน
พอพูดว่าอาหารตะวันออกกลางแอนก็จะตื่นเต้นนิดหน่อยเพราะในนิยายประโลมโลกการ์ตูนตาโตที่อ่านทำให้พอจะรู้ว่าพวกชีคสุดหล่อแถวทะเลทรายเขามักจะกินอินทผาลัมเก่งเรื่องถนอมอาหารทำของแห้งรู้จักการใช้กลิ่นและเข้าใจเรื่องการใช้เครื่องหอมมากกว่าชนเผ่าใด

เครื่องดื่มที่ใช้ความหอมของน้ำกุหลาบ ผสานกลิ่นของสะระแหน่สด ให้ความหวานอมเปรี้ยวอ่อนๆ ด้วยน้ำทับทิม
เรามาเจอร้านอร่อยในซอยเล็กซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆ โรงแรมมนตรีเดินเข้าไปในตรอก ร้านจะค่อยๆ ขยายกว้างขึ้น ด้านในร่มรื่นดูสบายตา มีครัวเปิดอยู่ด้านหนึ่ง ด้านในสุดมีกระหล่ำดอกสด มะเขือม่วงสดที่หน้าตาดีมากๆ และมันฝรั่งหัวขนาดใหญ่กว่าลูกกอล์ฟนิดหน่อย ทั้งหมดวางพูนๆ กันเป็นหมวดหมู่
ร้าน Hummus Chiang Mai จัดตัวเองว่าเป็นร้านอาหารมังสวิรัติที่เป็น Vegan และ ยังเป็นร้านอาหาร Gluten Free อีกด้วย แอนเคยกินอาหารตะวันออกกลางมาบ้างชอบที่สุดคือ Shakshuka ถึงขั้นหาสูตรมาทำกินเองที่บ้าน แล้วก็เคยกินพวกฟาลาเฟลที่ขายตามข้างทาง Hummus ที่ขายตามห้าง พวกนี้แอนถือว่าเป็นของกินเล่น ไม่เคยคิดว่าจะกินเป็นมื้อจริงจังเลย

อาหารมื้ออิ่ม ไม่มีเนื้อสัตว์ เพื่อสุขภาพ แค่ดูก็ผอมแล้ว 5555
ยอมรับว่าในฐานะมนุษย์กินเนื้อ ในตอนแรกเราไม่ค่อยเชื่อว่าเราจะกินร้านนี้อร่อย อิๆๆๆ แต่เมื่อเราได้ลองอาหารแล้วเราก็ต้องขอบอกว่า…ยอม มันดีจริงๆ กินเสร็จก็นั่งอวยๆๆๆ ส่งรูปให้คนนั้นคนนี้
อร่อยขนาดไหน…ไปเปิดประสบการณ์ด้วยกันค่ะ
•จานที่ 1 Middle East Bagel และ Za’atar
ตัวนี้เป็นประสบการณ์ที่เราอยากให้ลอง เพราะทางร้านเขาทำขนมปังเอง ตัวBagels หน้าตาเหมือนโดนัทขนาดใหญ่ เสิร์ฟมาพร้อมกับผงสีเขียวหม่นๆ ผสมงา อันนี้เราจินตนาการไม่ได้ว่าควรกินยังไง จนเจ้าของร้านมาไกด์บอกว่าฉีกแล้วจิ้มกินกับผง เจ้าผงนี้ชื่อผง Za’atar (ซาต้า)เป็นส่วนผสมของไทม์ เมล็ดผักชี โป๊ยกั๊ก ซูแมค ถั่ว ยี่หร่า เกลือ รสชาติเวลาจิ้มจะเค็มประแล่มเปรี้ยวหน่อยๆ (ราคา 30 บาทต่อชิ้น)
•จานที่ 2 Roasted Cauliflower

จานนี้คือดูยังไงมันก็ไม่น่าจะอร่อยในความคิดส่วนตัวแต่พอกินจริงๆ เห้ย…ผิดคาด มันอร่อยมาก กรรมวิธีจะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก เพราะมันคือการเอากระหล่ำดอกทั้งหัวเอามาทาน้ำมันมะกอกโรยเกลือดีๆ แล้วเอาไปอบไฟอ่อนๆ หลังจากนั้นเขาจะเอามาย่างกระทะอีกที เสิร์ฟกับตาฮีนี และ ซัลซา (90 บาท)
•จานที่ 3 Iron Salad
เป็นสลัดที่เปี่ยมไปด้วยธาตุเหล็กเพราะมี คีนัว เป็นตัวหลัก ผสมด้วย แบล็คเลนทิล บีทรูท เซเลอรี่ โมลาสน้ำทับทิม (หรือกากน้ำตาลน้ำทับทิม) น้ำมันมะกอก แค่เห็นส่วนประกอบก็รู้สึกสวยแล้วอ่ะ ที่เด็ดไปกว่านั้นคือชีสที่อยู่ด้านล่างค่ะ เป็นชีสแบบตะวันออกกลาง ที่มีรสเปรี้ยวคล้ายโยเกิร์ตแต่มีความหนาแน่นและ Texture คล้ายๆ กลุ่มชีสสด กินรวมกันแล้วดีมาก (170 บาท)
•จานที่ 4 Shakshuka
เป็นจานที่ชอบที่สุด ประกอบด้วยซอสมะเขือเทศสดและไข่ ปรุงรสด้วยเครื่องเทศต่างๆ (ถ้าทำเองจะใส่พริกลงไปด้วย) มักจะกินเป็นอาหารเช้า จิ้มกับขนมปังหรือ แป้งพิต้าก็ได้ ปกติร้านอื่นจะเสิร์ฟมาธรรมดา แต่ที่นี่เค้าเสิร์ฟมาในหม้อไฟ ให้กินกันร้อนๆ รสชาติก็ถูกใจคนไทย และดียิ่งขึ้นไปอีกเพราะตอนนี้เค้ามี Curry Shakshuka ให้ลองด้วย (160 บาท)
๐ส่วนประกอบอาหารตะวันออกกลาง

•Falafel
ปกติไม่ชอบกินฟาลาเฟลเพราะมัน ถั๊วถั่ว มันมีกลิ่นถั่วๆ หืนๆ เลยไม่ค่อยชอบ ของที่ Hummus Chiang Mai มีความต่างคือ กลิ่นที่หอมกว่าที่อื่น สัมผัสด้านในนุ่ม ไม่กระด้าง เวลาแบะออกแล้วไม่แตกร่วน สรุปว่าร้านนี้ทำให้เราเปลี่ยนความคิดเรื่องฟาลาเฟลไปเลย (90 บาท)
•Hummus
ทำจาก ถั่วลูกไก่บดใส่ตาฮีนี ใส่มะนาว และเครื่องเทศอื่นๆ ที่ถือเป็นสูตรของทางร้าน ซึ่งถั่วนี้ต้องนำเข้ามาจากอินเดีย เพราะมีรสชาติและรสสัมผัสที่ดีที่สุด (160 บาท มาพร้อม พิต้า ตาฮีนี ซัลซา และ ผักดอง)
•Pita Bread
กระบวนการทำพิต้าของที่นี่ใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมงในการทำให้ได้แป้งที่พอเหมาะพอดี หอมอร่อย ซึ่งอันมีลักษณะกลวงตรงกลาง เพื่อสามารถทำเป็นกระเป๋าใส่ไส้ต่างๆ ได้ (15 บาท)
•ตาฮีนี (Tahini)
เป็นเครื่องจิ้มอย่างหนึ่งของตะวันออกกลางที่ประกอบด้วยงาขาวบด จนเป็นครีม ซึ่งทางร้านเขานำเข้า เพื่อให้ได้รสชาติและคุณภาพตามที่ต้องการ
•ซัลซา
ซัลซาแบบตะวันออกกลาง เป็นมะเขือเทศสดบดและพริกสดบด เพิ่มรสเผ็ดเปรี้ยวและสดชื่นให้กับมื้ออาหาร
•เลปเนห์ชีส (Labneh Cheese)
ชีสทำจากาการเอาโยเกิรต์มารีดน้ำออก จึงมีลักษณะคล้ายกับ ครีมชีสที่มีรสชาติเหมือนโยเกิร์ตที่ให้โปรตีนและโพรไบโอติกสูง แต่มีแลคโตสต่ำ ที่นี่เขาทำเองด้วย
•ผักดอง
ที่ร้านคัดเลือผักปลอดภัย แล้วเอามาดองไว้ที่ร้าน
•House Drink
เครื่องดื่มที่หอมหวานอ่อนๆ ด้วยน้ำทับทิม และน้ำผึ้ง เติมความสดชื่นด้วยสะระแหน่
เสน่ห์ของการกินอาหารตะวันออกกลางอีกอย่างคือการมิกซ์แอนด์แมช คือ คุณอาจจะไม่อยากกิน Hummus แบบจิ้มธรรมดา แต่คุณอยากกินแบบไปผสมกับอย่างอื่น ไม่อยากกินครีมชีสก็ใช้ Hummus แทนสลับกันไปมาได้ อยากกินแบบ Fast food ก็เอาฟาลาเฟลกับสลัดมาใส่ขนมปังพิต้า เป็น Pita falafel อยากจะใส่มะเขือม่วงลงไปใน Shakshuka ก็ย่อมได้ ไม่มีอะไรตายตัวสนุกดีค่ะ
ใครที่อยากลองความอร่อยที่ดึงเอารสธรรมชาติจากวัตถุดิบออกมาได้อย่างสวยงามที่ร้าน Hummus ก็มาลองได้เลยค่ะ ขับรถมาถึงโรงแรมมนตรีที่ประตูท่าแพก็จอดรถได้ และ มีที่จอดรถในซอย และหลังโรงแรมมนตรีค่ะ
ที่เชียงใหม่มีสองสาขา คือ ที่ซอยข้างโรงแรมมนตรี กับ กาดฝรั่ง ส่วนที่กรุงเทพเขาไม่มีหน้าร้าน สั่งได้อย่างเดียวค่ะ
ติดต่อความเคลื่อนไหวของร้านที่ เฟซบุคได้เลยค่ะ