
Classic Burger (B.1) มาพร้อม Wedge ที่ทางร้านเรียกว่า Skinned Potato Fries
อร่อยปาก
คนที่มีรสมือดี เขาว่าเป็นคนที่เอาช้อนคนน้ำเปล่าก็อร่อย กรณีนี้ต้องขอบอกว่าต้องยกให้น้องปู เจ้าของพิซซาเรียจ็อตโต้ Pizzeria Giotto ซึ่งเราเป็นขาประจำมาตั้งแต่เปิด หยิบจับอะไรก็อร่อย สั่งอะไรก็ไม่เคยผิดหวัง ตอนนี้น้องปูเปิดร้านเบอร์เกอร์เพิ่มอีกร้าน ใกล้กับ Pizzeria Giotto ชื่อ Kin Soymilk&Burger
ถ้าราจะพูดว่าเป็นการกินเบอร์เกอร์ที่ทำให้เรารู้สึกผิดบาปต่อรอบเอวน้อยลงนิดหน่อยก็คงจะใช่ เพราะองค์ประกอบของตัวเนื้อ นั้นเขาผสมเปอร์เซ็นต์ ไขมันน้อยกว่าทีอื่น แต่ก็ไม่ได้แห้งมาก กำลังพอดี สำหรับคนที่ชอบเนื้อลีนๆ เราแนะนำค่ะ ขอข้ามเรื่องชีสไป 5555 องค์ประกอบที่เหลือ คือ ขนมปังโฮมเมดที่มีคุณสมบัติซับซอสซับความฉ่ำของเนื้อแล้วไม่เปื่อยยุ่ยยังคงเฟิร์มดีและหอมอร่อยมาก ซอสชอบที่สุดคือตัว Tar Tar Sauce ที่อยู่ในเมนูเบอร์เกอร์ปลา ไซด์ดิชต่างๆ คือทำได้ดีมาก ไปกินมาสองครั้ง ครั้งแรกลอง BLT และ Fish Burger อยากกิน Beouf Bourguignon แต่เพื่อนชิงสั่ง Classic Burger ตัดหน้าทุกที

เนื้อขนาด 150 กรัม ที่ทำคุณจุกได้ง่ายๆ
ถือว่าเป็นเบอร์เกอร์ที่คุ้มค่าราคาเงิน เพราะ ได้เนื้อขนาด 150 กรัม มีทั้งผักสดออร์แกนิค และ French fries มาพร้อมๆ กัน ขนาดใหญ่เบิ้ม ส่วนตัวคิดว่าเทียบใน range ราคาเท่ากันกับร้านฟาสท์ฟู้ดทั่วไป เช่นตัวคลาสสิคเบอร์เกอร์ ที่มีขายทุกร้าน (ที่นี่ราคา 155 บาท) เราว่าของที่นี่ เรียลกว่าและได้ของที่มีคุณภาพมากกว่า

Fish Burger ปลาชิ้นเขื่องๆ 2 ชิ้น
จานโปรดจานแรกยกให้กับ Fish Burger (ราคา 175 บาท) เป็นเบอร์เกอร์ปลากะพง ร้านเค้าใช้ปลาสด แล่เอง แป้งเคลือบปลาทั้งชิ้น โดยที่ปลาด้านในนุ่มฉ่ำไม่แฉะ ทาร์ทาร์ซอส อร่อยมาก ตอนแรกบอกเลยว่าเห็นหน้าตาแล้วไม่ค่อยอยากกิน เพราะเราไม่ชอบกินปลาชุบแป้งทอด แต่พอกินแล้วโหวตให้ที่ 1 ไปเลย
จานที่จะลับไปสั่งอีกให้กับ BLT น่าจะเรียกว่าเป็น Breakfast Burger มีทั้ง เนื้อ ไข่ และเบคอนทอด ชิ้นใหญ่มาก กินแล้วต้องกลับบ้านนอนสักชั่วโมงแล้วตื่นมาทำงานใหม่ส่วนจานอื่นๆ ก็มี แต่เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังอีกโพสท์นึง เรื่องเค้าเยอะ ร้านนี้

BLT Burger
ไม่ลำบากร่าง
นอกเหนือจาก เบอร์เกอร์แล้ว เขาก็ยังขาย น้ำเต้าหู้ออร์แกนิคด้วย ความประหลาดใจของเราคือ เราคิดว่ามันไม่เข้ากัน ตามประสาพวก แสวงหาไขมัน สะสมน้ำตาล ก็คิดว่าเบอร์เกอร์มันต้องกินกับพวก โซดาฟู่ๆ อ่ะ แต่เจ้าของร้านเขาอธิบายให้ฟังว่า การกินน้ำเต้าหู้จะช่วย ปรับสมดุลย์สภาวะกรดด่างของร่างกาย เพราะตอนที่เรากินเนื้อสัตว์ ปลา และไขมัน เลือดของเราจะมีสภาวะความเป็นกรด และการกินนมถั่วเหลืองที่มีค่าเป็นด่าง ก็จะช่วยปรับสมดุลให้ร่างกายได้ ดื่มนมถั่วเหลืองหลังจากการกินเนื้อสัตว์ก็ทำให้เราสบายเนื้อสบายตัวมากขึ้น

น้ำเต้าหู้รสธรรมชาติ
ร้านอยู่ในโครงการมีโชคพลาซา สี่แยกรวมโชค ฝั่งที่เป็นห้องแถว ใกล้ๆ กับร้านพิซซาเรียจ็อตโต้
Page : Kin Soymilk & Burger
แผนที่