มื้อประเดิมกับ Chef Leung Yu King เชฟจาก Summer Palace มิชลิน 1 ดาว ที่ Island Shangri-la Hongkong ที่ได้รับดาวมิชลินติดต่อกันถึง 8 ปีซ้อน ความโดดเด่นและภาพรวมของอาหารมื้อนี้ คือ ความเก่งในการดีไซน์ลำดับรสชาติเข้มอ่อนของอาหาร ทำให้เรากินอาหาร 8 จานโดยที่ไม่รู้สึกเหนื่อย แถมยังเพลินเสียด้วยซ้ำ ไม่ขอพูดพร่ำทำเพลงมากมาย เราลองมาดูกันเลยดีก่าว่า แต่ละจานเชฟจัดอะไรมาให้เราบ้าง และรสชาติจะตรงตามที่เราคาดหวังหรือไม่
จานที่ 1 ปรับ Palette เรียกน้ำย่อย
Chilled Cucumber with Garlic and Balsamic Vinegar
จานนี้ทำให้เราสดชื่นและกระตุ้นต่อมรับรสของเราได้ดีมากๆ รสเปรี้ยวจากแตงกวา มีกลิ่นกระเทียมแพลมออกมาประเด็นคือ จานนี้เชฟต้องการ จะเตรียมต่อมรับรสของเราเพื่อเป็นการปูทางสู่อาหารอีก 7 จานที่จะเดินทางมาที่โต๊ะอาหาร จานไม่ใหญ่มากกินเล่นกรุบกริบๆ
จานที่ 2 สายลมแห่งทะเลใต้ผสานกลิ่นป่าฝรั่งเศส
Deep-Fried Shrimp Toast with Truffle Pesto
จะด้วยเพราะการทำงานเรียกน้ำย่อยของจานแรกดีมาก จนทำให้เราอยากกินเจ้านี่สักร้อยชิ้น!!! คือมันอร่อยมาก ขนมปังหน้ากุ้งตัวโต เนื้อในกุ้งฉ่ำหวานสด อวลด้วยกลิ่นทะเลแนบชิดมาบนขนมปังกรอบไม่อมน้ำมันเพลิดเพลินกับกลิ่นทะเล แล้วก็มีกลิ่นป่าหอมลึกๆ แบบเห็ดทรัฟเฟิล กินแล้วเพลินมากๆ เพสโต้เห็ดทรัฟเฟิลไม่เด๋อ ไม่แปลกแยกในจานเอเชียเลยแม้แต่น้อย
จานที่ 3 เอาฟักแฟง ไปลงทะเล
Double-Boiled Marrow Ring Stuffed with Conopy in Morel Mushroom and Wolf Berries Soup
โถร้อนๆ กลิ่นทะเลมาก่อน ตามด้วยกิ่นของซุปไก่และกลิ่นหอมของไขมันหมูเจือมาเบาๆ …ตรงกลางคือผลแฟงหั่นขวางมาทั้งเปลือกคว้านด้สนใน บรรจุด้วยหอยเชลล์แห้งตัวเขื่อง วางทับด้วยเห็ด โมเรลเห็ดที่ขึ้นตามโคนต้นไม้ และจะงอกหลังจากเกิดไฟป่าได้ 3 ปี เป็นเห็ดที่หายากราคาแพง ซุปด้วยนี้อุดมด้วยสรรพคุณทางยามากมาย น้ำซุปสีทองสวยงามนี้ใช้ไก่เป็นเบส และใส่แฮมยูนนาน ตุ๋นกับแฟง ซึ่งมีสรรพคุณช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง และช่วยลดขนาดของเซลไขมัน บางที่บอกว่าช่วยเพิ่มความกระปรี้กะเปร่าทางเพศด้วย แก้ร้อนใน ที่เกาหลีเขาใช้แฟงรักษาโรคเบาหวานด้วย ส่วนเจ้าเห็ด โมเรลช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ และโรคหัวใจ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งและมะเร็งต่อมลูกหมาก ในส่วนของรสชาตินั้น ส่วนตัวคิดว่าเป็นซุปที่รสค่อนข้างหนา อาจจะดูไม่มันด้วยตาเปล่า แต่มีรสมันเจืออยู่ในน้ำ ซึ่งความหนาของซุปนี้ทำให้เราอิ่มได้เลยถ้ากินมากๆ แต่ความมันนี้ก็ตัดด้วยรสสะอาดหวานของแฟง และความเค็มประแล่มของหอยเชล์ที่อยู่ด้านใน
จานที่ 4 ปูหวาน
Steamed Crab Claw with Mashed Yam and Millet
จานนี้ถ้าเราเอาทุกอย่างคนรวมกัน เอาก้ามปูออกเหลือแต่เนื้อ แล้วกวนซุปข้างฟ่าง มันสำปะหลังบด บี้เนื้อปูเข้าด้วยกัน มันเหมือนซุปปูรสชาติสะอาดๆ ที่หวานหอม และนวลลิ้นด้วยมันสำปะหลังบด เนื้อปูหวานมากจริงๆ จะสังเกตเห็นว่า เชฟเหลิงทำอาหารจีนที่ ไม่หนักมาก ไม่มัน และแต่ละส่วนผสมนั้นคิดมาอย่างดี ตามแนวคิด กินเป็น ก็เป็นยา ข้าวฟ่างที่ใส่มาในซุปนั้นมีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคหัวใจ โรคมะเร็ง และเสริมภูมิคุ้มกัน ในฤดูฝนแบบนี้ อาหารจานนี้ช่วยได้มากทีเดียว
จานที่ 5 แก้มอร่อย
Stewed Beef Cheek in Chef’s Special Sauce
แก้มวัวตุ๋นมากกว่า24 ชั่วโมงที่เปื่อยตนเอาตะเกียบคีบกินได้เลย แต่ในความเปื่อยนี้มีความนุ่มหยุ่นของกล้ามเนื้อ คือถึงจะเปื่อยแต่เนื้อไม่ได้สูญเสีย รสสัมผัสที่ควรจะเป็น ตัวซอสรสพอดีๆ เป็นจานหลักที่ไม่หนักเลย กินสบาย มาพร้อมกับหน่อไม้ฝรั่งและแครอทหวานๆ ทั้งผักและเนื้อไปด้วยกันได้ดีงามมากๆ
จานที่ 6 ล้างปาก
Stewed Beef Cheek in Chef’s Special Sauce
เมื่อกินจานเนื้อมาแล้วก่อนไปถึงจานตบท้ายหนักๆ แบบข้าวผัด ก็คั่นด้วยก้านผักฮ่องเต้หวานกรอบมากับเยื่อไผ่ และเห็ดชิตาเกะ ผักฮ่องเต้นั้นมีสรรพคุณช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน มีวิตามินและแร่ธาตุสูง ตัวเยื่อไผนั้นมีสารต้านอนุมูลิสระอยู่มาก ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง และเห็ดชิตาเกะยาอายุวัฒนะชั้นยอด ที่อุดมด้วย วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 12 วิตามินดี และกรดแพนโททีนิค (Pantothenic) นอกจากนี้แล้วยังมีโปรตีน เอนไซม์ กรดอะมิโนที่จำเป็นอีก 8 ชนิด จานเล็กๆ แต่มากด้วยของมีประโยชน์จริงๆ
จานที่ 6 พลังแห่งสีชมพู
Egg White Fried Rice with Diced Scallop and Sakura Shrimp Beetroot Juice
ตามธรรมเนียมกินอะไรต่างๆ แล้วก็ไม่ลืมตบด้วยข้าวผัด ด้วยหัวใจของการทำอาหารของเชฟเหลิงคือต้องการให้อร่อยและได้สุขภาพ เราจึงได้ข้าวผัดสีสวยจานนี้มา ข้าวผัดไข่ขาวจานนี้ไขมันต่ำ ใส่หอยเชลล์หั่นเตา เพื่อให้รสและกลิ่นเค็มของทะเล กัดโดนกุ้งแห้งพอให้เค็มประแล่ม สีชมพของน้ำบีทรูทที่ใส่เข้ามา มีสรรพคุณช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกและมะเร็ง อุดมด้วยวิตามินซีและยังทำให้เลือดลมเดินได้สะดวก ส่วนตัวเป็นคนยึดติดกับรสชาติอาหาร แต่อาหารเพื่อสุขภาพคอร์สนี้ซื้อใจไปแล้ว ด้วยเมล็ดข้าวชักเงาสวยมียางเคลือบอยู่ท่เมล็ดสังเกตได้จากเราสามารถใช้ตะเกียบคีบกินได้เลย มีความหนึบหนับ ชอบข้าวแบบนี้มากๆ
จานที่ 6 หวานเป็นยา
Double-Boiled Yam with Lotus Seed, Lilly Bulbs, Red Date and Wolfberries
ขนมหวานถ้วยนี้หวานด้วยตัวผลไม้เอง พุทราจีนนั้นมากด้วยวิตามินซีและช่วยบำรุงผิว เก๋ากี๋หรือโกจิเบอร์รี่หรือ wolfberries ช่วยบำรุงสายตา เม็ดบัวอุดมด้วยแร่ธาตุ บำรุงไตบำรุงประสาท บำรุงสมอง และยังมีสมุนไพรอีกหลายตัวที่ใช้ในของหวานถ้วยนี้ กินแล้วรู้สึกสุขภาพดีขึ้นมาทันตา มิน่าล่ะชาวจีนถึงได้ดูหนุ่มสาวไม่แก่เกินวัย แข็งแรงอายุยืนกันทุกคน
รายละเอียดการจอง
ราคาครั้งนี้ ทั้งมื้อกลางวันและเย็น ราคาเดียว ที่ ไชน่าคิทเช่น
25-29 กันยายน 2019
เที่ยง: 11.30 น.. – 14.30 น.
เย็น : 6.00 – 22.00 น.
ราคา 1,688++ ต่อคน
จองล่วงหน้าที่: +66 53 253 888 or Email us at: chiangmai@shangri-la.com
โต๊ะมีจำนวนจำกัดจ้ะรอบนี้