As fake as it gets
หอไอเฟลจำลองที่ Windows of the World มีลิฟต์ขึ้นที่ขาของหอไอเฟล พร้อมประวัติของสถานที่
ฉันและคณะเดินทางมาถึงเสิ่นเจิ้น “มหานครแห่งการปลอมแปลง” เมื่อตอนเกือบจะเที่ยงคืนเข้าไปแล้ว เพราะการเดินทางจาก จูไห่เข้าเสิ่นเจิ้นใช้เวลาราวๆ 2 ชั่วโมง เราเข้าพักที่โรงแรม แชงรีลา เหนื่อยล้าจากการหลั่งอะดรีนาลีนเกินขนาดที่ Chime-Long ห้องพักที่แอร์เอเชียจัดไว้ให้ดีมากๆ ฉันเอาของไปเก็บแล้วออกไปซื้อเบียร์ที่ เซเว่นข้างๆ โรงแรม ไปสำรวจของซะหน่อย ทางไกด์และทัวร์ลีดเดอร์บอกว่า ที่เสิ่นเจิ้นไม่ค่อยปลอดภัยหากเดินคนเดียว ดังนั้นเวลาไปซื้อของจึงควรมีเพื่อนเดินไปด้วย ที่เซเว่นเขาไม่ติดแอร์มีของจัดพูนๆ ดูเยอะๆ ล้นๆ ตู้แช่แบ่งเป็นสองฝั่งคือฝั่งคุณหนู มีนม น้ำหวาน โยเกิร์ต ดูน่ากินมากอยากกินนมกล้วยแต่เขาไม่มีขาย เลยเดินมาอีกฝั่งเป็นฝั่งมัวเมามีเบียร์ให้เลือกทั้งกระป๋องเล็ก กระป๋อง ใหญ่ และแบบขวด เบียร์ที่เลือกมาได้แก่ เบียร์ Kirin กระป๋องสีน้ำตาลอ่อน หอมอร่อยไม่หนัก อีกกระป๋องคือ Harbin อันนี้ดื่มสบายหนักกว่าชิงเต่านิดลื่นคอดีมาก Red Horse อันนี้หนักเลย กินแล้วเมาเร็ว เหมาะกับกลุ่มคอทองแดง ขมหนักตอนปลาย กระป๋องเดียวอยู่เลย หลับสบาย ที่เหลือก็เป็นพวก เบียร์ ชิงเต่าเบียร์นอกกลุ่ม Budweiser Boddingtons ไม่ได้จัดมา มีตัวหนึ่งพี่ฮวงซีเนี้ยโปรดมากตคือ เบียร์สับปะรด ถึงขั้นซื้อมาฝากเพื่อนเลยทีเดียว
ตู้ฝั่งคุณหนู คิกขุน่ารัก
หวานหอมเหมือนน้ำสับปะรดแต่ไม่ทิ้งกลิ่นข้าวบาร์เลย์และฟองพรายแบบเบียร์ ซื้อเซเว่น 4.25 ซื้อร้านเพิงหมาแหงน 2.20 (กระป๋องราวๆสิบบาทบ้าไปแล้ววว)
นั่งกินเบียร์ไป คิดไปถึงเรื่องของปลอมของที่นี่ ไม่มีดีมานย่อมไม่มี ซัพพลายดังนั้นจึงอย่าว่าเขาเชียว สิ่งที่น่าชื่นชมคือเขาก๊อป ก๊อปจนได้ดี ก๊อปจนทุกคนมาซื้อ และบางทีอาจจะไพล่คิดว่านี่แหละของจริง มีของก๊อปเกรดเอ ของก๊อปที่ก๊อปของก๊อปเกรดเอ เป็นการก๊อปแบบปฐมภูมิบานปลายไปเป็นก๊อปทุติยภูมิ ทำให้นึกถึงคำพูดของฝรั่งที่ว่า Fake it til you make it. คือ “แสร้งทำ จนกว่าจะทำได้” ที่เสิ่นเจิ้นทำสำเร็จแล้ว มีคนแห่แหนมาซื้อของที่นี่มากมาย ทำรายได้มหาศาล มีใครก๊อปแล้วได้ดีขนาดนี้บ้าง ว่าแล้วก็ก้มดูกระป๋องเบียร์…เจ้าเบียร์นี่จะปลอมไหมนะ?
油条 Yóutiáo หรือที่บ้านเราเรียกว่า ปาท่องโก๋ กับน้ำเต้าหู้ หอมๆ ไม่หวานเลย
รับอรุณที่เสิ่นเจิ้นด้วย อาหารเช้า Buffet Line ที่แกรนด์มากๆ ของโรงแรมแชงกริลา ที่ชอบคือการทำอาหารที่ ไม่สูญเสียความเป็นตัวของตัวเองของอาหารชาตินั้นๆ เช่นอาหารเช้าแบบจีน ก็จีนจริงๆ อาหารฝรั่งก็ฝรั่งจริงๆ อันนี้จากการได้พูดคุยกับเชฟใหญ่ของที่นั่น Mr.Salvatore Coco เชฟชาวอิตาเลี่ยน เขาพยายามรักษาความเป็นอัตลักษณ์ของอาหารแต่ละประเภทได้อย่างดี เช้าของอีกวันเราจึงได้เห็น แพนงไก่ ที่หน้าตาไทยมากอยู่ในบุฟเฟ่ต์ไลน์ ไม่ได้ชิมว่ารสชาติไทยหรือเปล่า เพราะอิ่มแล้ว
อันนี้อยู่ในโซน ติ่มซำ ปะปนอยู่ะพวกฮะเก๋ากับซาลาเปา ข้างในมีใส้เป็นไข่ของสัตว์น้ำอะไรสักอย่าง มันๆ …อร่อยค่ะ
อาหารเช้าแบบสามัญตะวันตกก็มี มีโยเกิร์ตให้เลือกหลากหลาย
ข้าวต้มกับเต้าหู้ยี้และกานาฉ่าย ที่พี่ฮวงซีเนี้ยกินแล้วแทบน้ำตาไหล คิดถึงก๋ง
บะหมี่ตอนเช้าตามประสาคนรักเส้น
Overseas Chinese Town (华侨城 : huáqiáo chéng)
วันนี้เราจะไปเที่ยวสวน Man made อีกที่ ที่มีชื่อว่า OCT หรือ Overseas Chinese Town ที่นี่จำลองบรรยากาศตะวันตก มีทั้งสวน ปราสาท แบบยุโรป การแสดงโชว์ ที่นี่คือ ต้องเดินนะคะ มีเครื่องเล่นประปราย นั่งกระเช้า เล่นเสียว มีทั้งเสียวสุด กับเสียวพอสังเขป
รอบนี้มีคนสวยร่วมเดินทางด้วย
โซนแรกที่เดินเข้ามาจะเห็นความงามของสวนดอกไม้หลากสี Four Seasons Flower Fields เพื่อนั่งรถรางไปยังจุดที่เที่ยวต่างๆ ที่ OCT ที่นี่กว้างใหญ่มากนะคะ ขนาดที่ต้องมีโรงแรมถึง 7 แห่งให้พักข้างในกันเลยทีเดียว แต่ถ้าเที่ยวแบบ One Day ให้ตัดสินใจเอาเลยว่าชอบแบบไหนก็เที่ยวโซนนั้นไป ให้เข้าไปดูได้ที่ https://www.octeast.com/en/
มุมสงบสบายใน Interlaken Garden
OCT แบ่งเป็น 3 ส่วนคือ
Tea Stream Valley (Holiday Park) – ส่วนนี้จะมีสวนนานาชาติ สวนชา เมืองจำลองแบบตะวันตก Interlaken Commercial Street ที่นี่มีขบวนพาเหรดด้วย มีรถรางให้นั่ง และมีโชว์ ช่วงบ่าย 3 โมง บริเวณ Grand Theatre
Huaxing Temple – จำลองเมืองเก่า วัด และตึกรามบ้่านช่องแบบโบราณ และแวะสักการะพระแม่กวนอิม
Knight Valley Eco Park- เครื่องเล่นหวาดเสียวทุกสิ่งรอคุณอยู่ที่นี่ ตั้งแต่ Cliff Booster ชิงช้าม้าหกแกว่งไกวข้างละ สี่ที่นั่งหันหลังชนกัน ห้อยต่องแต่งบนเครน สูงราวๆ ตึกยี่สิบชั้นได้ Wood Coaster รถไฟฟ้าเหาะบนรางไม้ ความเสียวที่ยาวนาน Jungle Cart และอีกมากมาย …มากจนคิดว่าคนที่นี่ คงเป็นเชื้อสายจอมยุทธ์เหาะเหินเดินอากาศได้ เพราะแต่ละคนไม่มีทีท่าว่าจะหวาดกลัวแต่อย่างใด
การเดินทางและรายละเอียดของ OCT
รถประจำทางสายที่ผ่านที่นี่ คือ J1, Tour Bus, Airport Bus Route 6 ลงที่ Ecoventure Valley (Daxiagu) ซื้อตัวด้านใน ถัดจากวัวแดง ลายดาว บัตรของพวกเราเป็นบัตร คณะทัวร์เวลาไปไหนเลยต้องเดินตามกันไป เพราะแต่ละที่ห่างกัน หากต้องนั่งรถก็ต้องนั่งด้วยกัน ขึ้นรถไฟ ขึ้นกระเช้าก็ต้องตามกันไปเป็นหมู่คณะ ถ้าซื้อตั๋วเอง จะมีค่าตั๋วเข้าและค่าตั๋วนั่วรถไฟฟ้าหรือกระเช้าด้านในด้วย
ราคาตั๋ว-เปิดปิด
– ตั๋วปกติจะแบ่งขายแยกเป็น 2 โซนคือ Eco Adventure 150 หยวนต่อคน และ The Tea Stream Resort 130 หยวนต่อคน ตั๋วเหมา 220 หยวนต่อคน
– The Ecoventure Valley เปิด : 09:30-18:30 (วันหยุดเปิดเร็วขึ้นครึ่งชั่วโมง)
– The Tea Stream Resort Valley เปิด: 09:00-18:00 (วันหยุดเปิดเร็วขึ้นครึ่งชั่วโมง)
– โชว์ตอนเย็น เริ่ม 18:00-22:30
แผนที่
Luohu Commercial City (罗湖商业城: Luóhú Shāngyè Chéng)
Wonderland แห่่งการปลอมแปลง ไกด์กวีบอกเราว่า ที่นี่มีของจริงอยู่สองอย่างคือคนซื้อกับคนขาย พยายามอย่าซื้อสินค้าจำพวก เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือมือถือ เป็นไปได้ให้ซื้อพวกกระเป๋ารองเท้า บลา…บลา…บลา… แต่ด้วยพี่ฮวง ทำโทรศัพท์ ไอโฟนที่รักพลัดตกโถชักโครก แม้จะเอาฝังข้าวสารก็ยังไม่หายป่วย เราจึงอยากลองเสี่ยงโชคกับ การต่อราคา และการทดลองซื้อโทรศัพท์ที่นี่สักตั้ง ก่อนเดินเข้าห้างเห็นอาเจ๊ อาม่าแพคสินค้า นึกว่่าเป็นพวกขนม เสื้อผ้า เปล่า มันคือ ไอโฟนหก นางกำลังเรียงมันอย่างขมักเขม้นลงกล่องกระดาษ จะแอบถ่ายรูปก็กลัวโดนตบ แล้วตอบโต้ไม่ได้
ภายใน ให้ความรู้สึกมาบุญครองมากๆ
พี่ฮวงซีเนี้ยเล่นเกมล่อเอาเถิดกับคนขายโทรศัพท์อย่างมีชั้นเชิง เราตกลงกันที่ Samsung S4 ด้วยออพชั่นตระการตา และ ราคาที่แสนน่ารัก คือเริ่มต้นนั้น อาเฮียแกบอกมา 950 หยวน พร้อมกล่องหรูหราและอุปกรณ์ครบครัน พี่ฮวงเดินออก ไป เดินกลับมา อยู่อย่างนั้น ราคาแต่ละรอบลงไปทีละร้อยหยวน จนสุดท้ายคนขายปิดการขายที่ 450 หยวน อนิจจาที่ซิมไอโฟนของพี่ฮวงฯ ปฏิเสธที่จะอยู่ในเครื่อง Samsung เราอาศัยจังหวะชุลมุน หลบหนีเฮียไปได้โดยละม่อม โดยไม่เสีย 450 หยวน…รอดไป เพราะกลับมาเมืองไทย มีคนบอกว่าที่ลาวขายอยู่พันหกเอง …
ทางเดินเข้าห้างด้านข้าง
Windows of the World (世界之窗: Shìjiè zhī Chuāng)
จะจำลองอะไรทั้งที ที่นี่เขาไม่ได้จำลองกันแบบ เล่นๆ เขาจำลองเอาจริงเอาจังแบบแทบจะยกสิ่งสำคัญของทั้งโลกมาไว้ที่นี่เลยทีเดียว มีทั้งแบบ 1:1 หรือเแบบ จำลองเล็กๆ เก็บรายละเอียดได้อย่างน่าทึ่ง น่าเสียดายที่เมื่อเราไปถึงก็เป็นเวลาพลบค่ำแล้วทำให้ไม่ได้เห็นอีกหลายๆ ส่วน หากไปเวลากลางวันแล้ว เราจะได้พบกับ การจำลองสถานที่สำคัญๆในยุโรป อย่างชัดเจนมากขึ้น เช่น พระราชวังแวร์ซายส์ Mont St.Michelle แห่งเมืองนอร์มังดี หอเอนปิซาแห่งอิตาลี และอีกมากมาย
L’Arc de Triumphe de L’Etoile หรือประตูชัยฝรั่งเศส
ที่นี่สร้างมานับตั้งแต่ปี 2534 เป็นสถานที่พักผ่อนและให้ความรู้แก่ผุ้เข้าชม เพราะแต่ละที่เขาเขียนรายละเอียดไว้ให้ศึกษา สำหรับใครที่เบี้ยน้อยหอยน้อยก็สามารถ แอ๊บไปอัพโซเชียลมีเดียเสมือนว่าได้่ไปยุโรปจริงๆ ส่วนที่เราไปดูการแสดงเป็นที่นั่งเหมือนโคลิเซียม การแสดงแสงสีเดียงน่าตื่นตาตื่นใจทีเดียว หากใครเคยไปดูที่สิบสองพันนาจะคล้ายๆ กัน แต่ที่นี่มีความหลากหลายและดูเป็นนานาชาติมากกว่าค่ะ
การตกแต่งรับเทศกาลฮาโลวีนที่ทางเข้าด้านหน้า
การแสดงประกอบดนตรี โดยนักแสดงไร้กระดูก? ตัวอ่อนมากๆ
แผนที่ค่ะ กดดูได้เลย
ได้เวลาอร่อย
กินข้าวกับเหมาเจ๋อตุง
毛家饭店 Mao jia fan dian เหมาเจียฟ่านเตี้ยน
Mao Jia Fan Dian ร้านเย็นสบาย น่านั่ง ตู้ด้านข้างขายน้ำพริก หรือซอสสำเร็จรูปยี่ห้อประธานเหมาด้วย จะซื้อกลับมาก็กลัวแตก
ร้านนี้เป็นร้านที่ประทับใจมากๆ นับตั้งแต่เดินเข้า เห็นรูปประธานเหมาอยู่ประปรายขึ้นไปชั้นสอง มีรูปปั้นประธานเหมาด้วย การจัดโต๊ะจัดแสงสวยงาม น่าชื่นชม บางมุมเป็นมุมส่วนตัว ร้านตกแต่ง โทนแดง เก้าอี้ไม้ ตัวอาคารกึ่งปูนผสมไม้ ดูย้อนยุคมากๆ ที่นี่ ทำอาหารบ้านเกิดของประธานเหมา และอาหารเมนูโปรดของประธานเหมา ดังนั้นการมารับประทานอาหารที่นี่ก็เหมือนกับมากินข้าวบ้านประธานเหมา เสียแต่ว่ามีแต่รูปภาพของท่านเป็นตัวแทนมานั่งกับเราเท่านั้นเอง
หมูพะโล้ลูกเต๋าอัดแน่นมาในโถกระเบื้อง ด้านล่างรองด้วยบางอย่างคล้ายดอกไม้จีนที่ชุ่มด้วยซีอิ้ว
อาหารของที่นี่ ส่วนใหญ่เป็นอาหารหูหนาน อ่านมาจากเว็บ all-chinese.com เขาบอกว่า อาหารหูหนาน(湖南采系)หรือเรียกย่อ ๆ ว่าเซียงไช่ (湘菜)พัฒนามาจากอาหารแถบลุ่มแม่น้ำเซียงและทะเลสาบต้งถิง อาหารตำรับนี้จะเน้นที่ความมันและความเข้มข้นเป็นหลัก ให้ความสำคัญกับสีสันของอาหาร โดยมากนิยมใช้พริกและเนื้อรมควันเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหาร มีรสชาติครบทุกรส โดยเฉพาะรสเผ็ดเปรี้ยวที่มีกลิ่นไอของอาหารหูหนานอย่างแท้จริง พอมาได้ชิมอาหารบ้านท่านเหมา ก็น่าจะเป็นแบบั้นจริงๆ เพราะมีรสเผ็ดร้อนกว่าอาหารที่อื่นๆ มาดูกันว่ามีอะไรบ้างค่ะ
กุ้งเสียบไม้คั่วพริกกับสมุนไพรดมดูคล้ายๆหม่าล่า
เส้นเหมือนวุ้นเส้น แต่หนึบหยุ่น เผ็ดๆ เค็มๆ มันๆ อร่อยมาก พยายามค้นว่าเขารียกว่าอะไร ขอแปะไว้ก่อนเดี๋ยวเอามาเล้าให้ฟังค่ะ
ไก่หอมกลิ่นน้ำมันงาซอสที่เคลือบ เผ็ดร้อน เค็มมัน เปรี้ยวประแล่มๆ
แกงตะพาบน้ำจานนี้อะเมซิ่งจิงเกอร์เบลมากๆ เพราะเราไม่ได้คิดว่ามันจะเป้นตะพาบ ก่อนที่จะรู้เราเดากันว่า น่าจะเป็น งู เป็นปลาบึก เป็นสารพัดเชียว แต่จริงๆแล้วคือตะพาบน้ำ กินเข้าไปแล้วกรึบกรับเหมือนกินไก่ผสมปลา
ร้านเปิดทุกวัน 10.00- 23.00
แผนที่ค่ะ
丹桂轩dan gui xuan ต้านก้วยฉ่วน
ร้านอาหารกวางตุ้งที่อร่อยที่สุดในเมืองเสิ่นเจิ้น
เป็ดปักกิ่งหนังกรอบ รสดีมากๆ
ร้านอาหารร้านนี้ อยู่ในโรงแรม ที่บังเอิญไม่ได้จดชื่อมา เดี๋ยวดูใน Location ด้านล่างแล้วกันนะคะ เป็นร้านที่โปรมาก เข้ามาปุ๊บเสิร์ฟฝ้าขนหนูร้อน อาหารทยอยลง เริ่มตั้งแต่เป็ดปักกิ่ง หนังกรอบๆ ซอสหวานซ่อนเปรี้ยวผักกรุบๆ และแผ่นแป้งนึ่งร้อนๆ อร่อยห้าดาว จากนั้นก็มาเป็น ปูอบวุ้นเส้น รสชาติแม้ไม่ค่อยเหมือนที่เมืองไทย ของที่นี่ก็อร่อยไปอีกแบบค่ะ คือรสอาหารของเขาจะนวลๆ กลืนๆ กัน ไม่เค้มจัด ไม่เปรี้ยวจัด ไม่หวานจัด สมานรสได้ดีมากทีเดียว
แป้ง ซอส เป็ด และผักสวยๆ ห่อเข้าด้วยกัน กัดกร้วมก็เห็นสวรรค์รำไร
คากิๆๆๆๆ ซู้ดซี้ดมากๆ มันโปร…มันเด้ง…มันเปื่อย
ปูอบวุ้นเส้นหอมกระเทียมกับขิง อร่อยมากๆ
จากเว็บ all-chinese.com อีกเหมือนกัน เขาเล่าถึงอาหารกวางตุ้งไว้ดังนี้ค่ะ
“อาหารกวางตุ้ง(广东采系)เรียกย่อๆ ว่าเยวี่ยๆไช่(粤菜)เป็นชื่อที่ใช้เรียกอาหารของกวางเจา(广州)แต้จิ๋ว(潮州)และตงเจียง(东江) โดยอาหารแต่ละถิ่นจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้อาหารของกวางเจาถือเป็นองค์ประกอบหลักของอาหารตำรับนี้ มีบันทึกเกี่ยวกับอาหารกวางตุ้งนับแต่ยุคฮั่นตะวันตก(西汉)ต่อมา เกิดพัฒนาการอย่างมากหลังจากที่ราชสำนักส่งพ่อครัวไปประจำที่มณฑลกวางตุ้ง(广东省)ในสมัยราชวงศ์ซ่งใต้(南宋)อาหารชนิดนี้เริ่มกลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก หลังจากจีนเริ่มซึบซับจุดเด่นของอาหารสไตล์ตะวันตกราวคริสต์ศตวรรษที่ 20 เฉพาะในนครนิวยอร์ก มีร้านอาหารสไตล์กวางตุ้งกว่าพันแห่งเปิดกิจการอยู่ อาหารกวางตุ้งจะใช้วัตถุดิบในการทำที่หลากหลายและเน้นการปรุงอาหารด้วยเนื้อสัตว์เป็นหลัก ให้ความสำคัญกับความสดใหม่ ความกลมกล่อม โดยทั่วไปจะปรุงอาหารให้มีรสจืดในฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง ส่วนฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิจะปรุงอาหารให้มีรสชาติค่อนข้างเข้มข้น”
สรุปว่าก็จริงตามนั้น แต่สำหรับร้านนี้คิดว่าอยู่ที่รสมือของแม่ครัวด้วย ที่นี่รสมือแม่ครัวดีมากๆ ไม่ว่าจะเป็น ต้ม ผัด แกง ทอด หรือ จานเนื้อ จานทะเลเขาก็ทำออกมาได้ รสชาติดีกลมกล่อมทีเดียวค่ะ ร้านนี้ค่อนข้างฮิตนะคะ ปิดเร็วด้วย
ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 ปิด 21.00 หรืออาจจะเร็วกว่านั้น
ตอนต่อไป เที่ยวกวางโจว (Coming Soon)