หางโจววันที่ 2 : เธอคือถ้วยชาของฉัน และไก่ขอทาน
ฮวงซีเนี้ย
ทางเดินและตึกรามบ้านช่องอาบด้่วยแสงทอง
วันนี้ข้าพเจ้าตื่นเช้า เดินออกมาถึงหน้าประตูเมืองตรงปากซอยเข้าโรงแรม ดูบรรยากาศยามเช้าของชาวหางโจว มีร้านขายเกี๊ยว ปาท่องโก๋ เจี๋ยนปิ่ง (แป้งผสมหมู หรือผัก นาบกระทะร้อนๆ แบบโรตี แต่แป้งหนานิดหน่อย) เช้าวันแรกข้าพเจ้าได้เกี๊ยวน้ำไปหนึ่งชาม ก่อนกลับไปกินกาแฟที่ร้านหน้าโรงแรมที่เราเล็งไว้ตั้งแต่เมื่อวาน เพราะเขาเขียนไว้หน้าร้านว่า เขาเสริฟกาแฟที่ดีที่สุดในหางโจว ร้านเปิด 9.30 น.
ร้านกาแฟที่รสชาติดี ในเมืองแห่งชา ค่อยทำค่อยชงเหมือนทำสมาธิ
ความที่ประเทศจีนเป็นเมืองชา คนจีนนิยมดื่มชา และน้ำร้อน หรือน้ำอุ่น ตามสถานที่สาธารณะเช่นสถานีรถไฟ สนามบิน จะมีตู้น้ำที่สามารถกดได้ทั้งน้ำร้อน และน้ำอุ่น ไม่มีน้ำเย็น!! คนไทยชอบดื่มน้ำเย็น ติดน้ำแข็ง และกาแฟ อยากบอกว่า คนไทยนิยมดื่มกาแฟเย็นอีกต่างหาก การมาจีนจึงเป็นเรื่องที่ต้องค้นหาสิ่งเหล่านี้ สำหรับข้าพเจ้าแล้วไม่มีปัญหาเรื่องน้ำร้อน เพราะปกติก็ไม่ดื่มน้ำเย็นอยู่แล้ว จึงอยู่ได้ด้วยน้ำชาสบายๆ แต่กาแฟนี่ต้องปรับบ้างนิดหน่อย ในเวลาที่ง่วงจริงๆ การเดินทางในประเทศชานั้น เราย่อมไม่อาจคาดหวังถึงกาแฟ แต่การมาพบร้านกาแฟที่เคลมตัวเองว่าดีที่สุดในหางโจวนั้น มันช่างเร้าใจยิ่งนัก
พวกเราเข้าไปสั่งกาแฟมาชิมกัน ราคาไม่ใช่เล่นๆ บาริสต้าที่ทำกาแฟให้เราดื่มนั้นต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ เพราะในประเทศแห่งชานั้น เขาเป็นคนหนุ่มที่ดูจริงจังกับการทำกาแฟ คั่วกาแฟยิ่งนัก และก็จริงดังที่เขาว่าไว้ กาแฟที่นี่เพียงแค่คาปูชิโน่ก็ทำให้ฟินได้ง่ายๆ สบายๆ เพื่อนๆ ลองกาแฟเอทิโอเปีย และอื่นๆ ต่างยินดีปรีดากับกาแฟร้านนี้
ของเก่าที่ถูกจัดวางองค์ประกอบอย่างลงตัวกลายเป็นงานศิลปะชิ้นเอกของย่านนี้
วันนี้เราขอพักร่างกันหนึ่งวันด้วยการเดินเที่ยว ช็อปปิ้ง ถ่ายรูปในถนนโหฟ่างแห่งนี้ ที่ด้านหน้าถนนใกล้กับประตูเมือง มีโบสถ์คริสต์ใหญ่โตสวยงาม ถัดมาเป็นอาคารแปลกตาสี่ชั้น ด้านล่างทำผนังเป็นงานอาร์ตที่นำของเหลือใช้มาติดไว้กับผนัง เช่น จักรยานเก่า หม้อ ประตูเก่า กลางคืนติดไฟส่องลงมา คนนิยมมาถ่ายรูปที่มุมนี้ แม้แต่ข้าพเจ้าเองก็ชอบมุมนี้เช่นกัน
เธอคือถ้วยชาของฉัน คือคำแปลด้านบนของอักษรจีน
หลังจากเดินถ่ายรูปรอบๆ อาคาร ก็ขึ้นไปชั้น 2 เนื่องจากมีคำเชิญชวนที่แสนเร้าใจว่า Card Lover เมื่อขึ้นไปกับพบกับร้านขายโปสการ์ดสไตล์กราฟฟิคหวานๆ แบบการ์ตูนวัยรุ่น มีเด็กหนุ่มหน้าตาเรียบร้อยนั่งขายอยู่เงียบๆ นอกห้องขายการ์ดเป็นระเบียงใหญ่ ตั้งโต๊ะไว้ น่าจะเคยขายเครื่องดื่ม ที่น่าสนใจคือ มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นมาอยู่บนระเบียงชั้นสองนี้ ใหญ่แบบที่น่าจะโตจากบนดิน ทำได้อย่างไร แล้วก็ตอบตัวเองว่า เขาสร้างกำแพงเมืองจีนได้ แค่ปลูกต้นไม้บนตึกคงเป็นเรื่องบีบสิว
หลังจากถ่ายภาพอัพเฟซแล้ว ก็มีน้องเข้ามาบอกว่า ตัวหนังสือที่ติดอยู่บนผนังตึกนั้นเขียนไว้ว่า “เธอคือถ้วยชาของฉัน” ป้าๆ ถึงกับยิ้มฟรุ้งฟริ้งด้วยความประทับใจว่าซอยนี้เขาเป็นศิลปินกันตั้งแต่อาแปะขายเป็ดพะโล้ไปจนถึงตึกใหญ่ทันสมัยวัยรุ่นเลยหรือไง
ร้านขายไดอารี่ Not a book, a Notebook
วันนี้ทั้งวันข้าพเจ้าเดินลัดเลาะเข้าไปในถนนโหฟ่าง เลยโรงแรมเข้าไปข้างในมีร้านขายของที่ระลึก ร้านชา ร้านอะไรต่ออะไรมากมาย ทีี่ชอบมากและต้องยอมแบกน้ำหนักกลับมาคือร้านขายสมุดโน้ตในสไตล์เหมา งานของเขาแทรกอารมณ์ขันไว้อย่างกวนๆ เช่น ให้ประธานเหมาใส่เสื้อลายหลุยส์ วิตตอง และโอบามาใส่หมวกดาวแดง และเสื้อผ้าแบบเหมา ขายโดยอาม่าที่ยังแข็งแรง หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ยินดีปรีดากับการขายของให้นักท่องเที่ยว ขณะที่ข้าพเจ้าจ่ายเงินนั้น อาม่าก็ทำไม้ทำมือพูดภาษาจีนซึ่งข้าพเจ้าฟังไม่รู้เรื่องหรอก อีกประเดี๋ยว อาม่าก็คว้ากล้องของข้าพเจ้าไป แล้วชีให้ข้าพเจ้าไปยืนอีกมุมหนึ่ง พร้อมกับถ่ายรูปให้ ข้าพเจ้าได้แต่ยืนงง ณ ขณะนั้นอยากได้กล้องคืนมาเพื่อถ่ายอาม่าที่กำลังถือกล้องถ่ายภาพอยู่นั้น น่ารักดี
ที่ถนนนี้มีรถไฟฟ้าแบบรถรางไว้บริการนักท่องเที่ยวที่ขี้เกียจเดินด้วย คนละ 5 หยวน รถจะพาออกจากประตูเมืองไปถึงอีกฝั่งถนนหนึ่งเลยทีเดียว
ร้านรถเข็นที่สะอาด คนปรุงทุกคนใส่เสื้อขาวใส่หมวก รถเข็นเหมือนๆกัน ขายอาหาร เรียงรายไปตามถนน
เย็นนี้๊เดอะแก๊งค์มีนัดไปกินสตรีทฟู้ด ที่ฝั่งโน้นกัน ซึ่งแอนกับลานนาไปลองกันมาตั้งแต่สองคืนก่อนแล้ว ตีซี้กับเจ้าของร้านขนาดเดินผ่านร้านเขาตะโกนข้ามถนนทักทาย มาสองวันนางกลายเป็นขี้เหล้าท้องถิ่นไปแล้ว ประสบความสำเร็จจริงๆ ที่ถนนนี้ตอนกลางคืนจะมีอาหารแบบรถเข็นเรียงรายไปตลอดสองข้างทาง อาหารมากมายจนจินตนการไม่หมด ละลานตาไปหมด
ร้านไก่ขอทานที่เป็นเหมือนของฝากเมืองนี้ไปแล้ว
เป้าหมายหนึ่งของข้าพเจ้าคือการได้มาลิ้มลองไก่ขอทาน ไก่พอกดินเผาไฟแสนอร่อยที่อึ้งย้งทำให้ก๊วยเจ๋งกิน ตอนเดินทางท่องยุทธภพ ขณะจะกินไก่นั้น ได้มีชายชราคนหนึ่ง คือ อั้งชิดกง หัวหน้าพรรคกระยาจกโผมาแย่งไก่ไปจากมือ กินอย่างเอร็ดอร่อย และตกอยู่ภายใต้รสมือของอึ้งย้ง ที่ทำอาหารให้กิน เพื่อหลอกล่อให้อั้งชิดกงสอนวิชาให้กับก๊วยเจ๋ง อึ้งย้งมีสติปัญหาที่ฉลาดหลักแหลมมากๆ และมีรสมือทำอาหารที่เก่งมากๆ ด้วยเช่นกัน ไก่ขอทานของอึ้งย้งนั้น เมื่ออั้งชิดกงได้ลิ้มรส ถึงกับกล่าวว่า บรรพบุรุษขอทานยังปรุงไก่ขอทานอันโอชะเช่นนี้ไม่ได้ (https://www.youtube.com/watch?v=42mx684MjM4 นาทีที่ 12.15 เป็นต้นไป)
[youtube https://www.youtube.com/watch?v=42mx684MjM4&w=560&h=315]
ไก่ขอทานเมื่อผ่าและแกะออกแล้ว เครื่องในถูกควักออกจนหมด
รสชาติของไก่ก็อร่อย หอม แต่เอาเข้าจริงๆ เมื่อไก่มาวางอยู่ตรงหน้าพร้อมกับอาหารมากมาย ก็กินได้นิดเดียว เมื่อถ่ายรูปอัพเฟซขึ้นไปก็พบว่าแฟนเพจให้ความสนใจไก่ขอทานมากๆ อาจเป็นเพราะเป็นไก่ที่มีเนื้อหาอยู่ในหนังที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี คือเรื่องมังกรหยก และกลวิธีการทำนั้นก็ไม่คิดว่าจะมีจริงๆ หน้าตาของไก่มาแบบเป็นก้อนดินที่ต้องผ่าออกมาแล้วมีใบบัวห่อไก่อยู่ภายใน ราคาไก่ตัวละ 30 หยวน หรือ 150 บาท ซึ่งไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับการนำไก่มาหมัก ปรุงรส ห่อใบบัว พอกด้วยดิน แล้วนำไปอบให้สุกจากภายในนั้น มีคนแชร์เรื่องนี้ไปถึง 22 แชร์
ค่ำคืนของหางโจวช่างเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์จริงๆ อาหารอร่อย เบียร์ถูก ปีศาจเบียร์น้อยใหญ่ต่าง enjoy life กันยิ่งนัก ส่วนป้าๆ ก็ดื่มแต่พองามแล้วกลับห้องนอน พรุ่งนี้เช้าเราตัดสินใจเช่ารถตู้ให้พาเราเที่ยวพิพิธภัณฑ์
การเดินทางยังอีกยาวไกล เพิ่งวันที่ 2 เอง คิดถึงบ้านซะแล้ว หมาแมวจะเป็นอย่างไรบ้างนะ
EP 3