เวียงจันทน์ ที่ฉันคิดถึง

Logo หน้าร้าน Le Bannetone ร้านที่เลื่องชื่อเรื่องขนมอบ และอาหารเช้า
ฉันเคยไปเตร็ดเตร่อยู่เวียงจันทน์เมื่อครั้งยังทำนิตยสาร มหานที เข้าร้านนี้ออกร้านนั้น เวียงจันทน์ในตอนนั้น เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ถือเป็นเมืองหลวงที่จอแจน้อยกว่า ถนนหนทางกำลังสร้างอยู่หลายสาย ฉันมักจะพักริมฝั่งโขง เพราะใกล้ที่กินที่เที่ยว วิวดี ไปแต่ละครั้ง ก็จะแวะเข้าไปทักทาย ร้าน Le Central ร้านอาหารฝรั่งเศส เจ้าแรกๆ ในเวียงจันทน์ กินอาหารฝรั่งเศส แบบ Fine Dine ในราคาโฮมเมด เที่ยงไปเที่ยวหา อ้ายอินที เจ้าของ Green Discovery Laos ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขอบใจเด้อด้วย กินบุฟเฟ่ต์แก ซึ่งถือว่าคุ้มค่าราคาถูกสำหรับคนทำงาน เย็นมาข้ามน้ำพุไปกิน L’Opera ร้านอาหารอิตาเลี่ยนเก่าแก่ ของเมือง ทุกเช้าก็มาแก้แฮ้งค์ที่ โจมา คาเฟ่ บางทีก็เจอเพื่อนชาวต่างชาติที่เคยอยู่เชียงใหม่ มาทักทายกันบ้าง มีหลายๆรายที่ย้ายจากเชียงใหม่มาอยู่เวียงจันทน์แทน แน่นอนเกือบทุกเย็นฉันก็จะไปร่ำ เบียร์ลาวแถวริมน้ำโขง ถ้าไม่ที่สวนลาวก็ของวิว ดึกๆ เพื่อนๆ ชาวลาวก็พาไปเปรี้ยว ที่ดอนจั่นพาเลซ นับเป็นการทำงานที่สำราญมากๆ
วันนี้ กลับมาเวียงจันทน์อีกครั้ง พร้อมด้วยภาระกิจติดตัว ด้วยเวลาที่มีน้อยและต้องมีนัดหมายทางธุรกิจไปด้วยจึงทำให้ดื่มด่ำกับบรรยากาศเวียงจันทน์ได้ไม่เต็มที่นัก แต่ก็รู้่สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และกลุ่มทุนจีนที่เข้ามาลงทุนในเมือง ทำให้บางพื้นที่ นั่งๆ อยู่นึกว่าเป็นประเทศจีน สิ่งที่น่าเสียดายสำหรับฉัน(คนเดียว) คือที่พักที่เคยพักหายไปแล้ว ถนนที่เคยเลียบแม่น้ำโขง มีถนนสร้างใหม่อีกสายเลียบน้ำโขงแทน จากที่เคยเห็นน้ำโขงก็จะกลายเป็นร้านค้า แบบถนนคนเดินเชียงใหม่ มาขายของงานหัตถกรรมให้นักท่องเที่ยวแทน บริเวณน้ำพุ มีร้านอาหารที่มีร้านอาหารเฟรนไชส์ของคนไทยไปเปิดด้วย คือร้าน Mix บริเวณน้ำพุจึงไม่ได้โล่งอย่างเที่เคยอีกต่อไป

ลานน้ำพุปัจจุบัน 2014

ลานน้ำพุปี 2011 ช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่พอดี หารูปเก่าไม่เจอเจอแต่รูปนี้
แต่แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เวียงจันทน์ก็คือเวียงจันทน์ คนที่นั่นก็ยังเป็นเหมือนเดิม อัธยาศัยดี พร้อมให้ความช่วยเหลือ ร้านอาหารบางร้านก็มีปิดไปบ้างหรือไม่ก็มีการเปลี่ยนแปลงหุ้นส่วน เช่นร้าน Le Central รอบนี้กลับไปก็ไม่ได้เจอ ร้านกลายเป็นร้านจักรยานไปแล้ว มีร้านใหม่ๆ และร้านเดิมที่น่าสนใจอีกหลายร้านทีเดียว ขอเล่าพอสังเขปนะคะ
ร้าน Le Trio Coffee-Boutique Roaster

Phonesavahn Vilivong และ Micka Perier เจ้าของร้าน Le Trio ทั้งสองคน คั่วกาแฟเองในร้านน่ารักนิสัยดีมากๆ
ร้าน Le Trio เป็นร้านกาแฟ แบบคอฟฟี่บาร์ขนานแท้ ด้านในนั่งได้ไม่เกินห้าคนก็อึดอัดแล้ว ดังนั้นจึงเห็นขาประจำหลายๆ คนสั่งแบบ Take away บางคนก็สั่ง Espresso แก้ง่วงสักช็อตหนึ่งแล้วก็กลับไปทำงานต่อ ด้านนอกเป็น Terrace เห็นความเคลื่อนไหวของถนน Setthathilath อยู่เยื้องน้ำพุ ใกล้ๆ กับร้านโจมา น้องสาวเจ้าของร้านคนสวย เข้ามาต้อนรับอย่างอบอุ่น ชื่อร้านเต็มของเขาคือ Le Trio Boutique Roaster กาแฟของที่นี่เป็นอาราบิก้าและโรบัสต้าของลาว คั่วบดกันในร้านกลิ่นหอมรัญจวนใจ เป็นร้านที่เพื่อนชาวต่างชาติ และชาวลาวทุกคนให้ความเห็นว่าเป็นร้านกาแฟที่ดีที่สุดร้านหนึ่งของเมือง

คาปูชิโน่ร้อน อาฟเตอร์เทสต์ของกาแฟที่นี่ไม่เปรี้ยว ออกขมๆ หอมติดจมูก

ทั้งร้านมีพนักงานสองคนที่ยุ่งตลอดเวลาเพราะลูกค้าเข้าไม่เคยขาด

Moccaเย็นที่เข้มข้น มีน้ำเชื่อมแยกให้เพิ่มความหวานเอาเอง
ร้านเปิดเวลา 9.00 – 18.00 น. ปิดวันอาทิตย์
โทรศัพท์ : +856 20 22 553 552
ร้านอยู่บนถนน Setthathilath ใกล้น้ำพุ
แผนที่
ร้าน Little House
เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าที่นี่ Scone อร่อยที่สุด เราจึงมาขอชิมค่ะ
จาก Le Trio มาฉันก็ถามที่ร้าน ว่าเราควรจะไปกินอะไรกันต่อ เธอบอกว่าให้มาลอง Scone ที่อร่อยที่สุดในเวียงจันทน์ เจ้าของร้านไม่อยู่ พนักงานก็ออกจะเหนียมๆ กลัวฉันจะไปล้วงความลับอะไรเขา เลยได้ขอ้มูลมาไม่มากเท่าไหร่ รู้แต่ว่าเจ้าของเป็นคนญี่ปุ่น ฉันและคณะหลงกันพักใหญ่ หาร้านไม่เจอ กว่าจะเจอก็ถามทางไปเรื่อยๆ ป้ายร้านเล็กๆ ร้านพื้นที่กว้าง แต่มินิมอลมากๆ เก้าอี้จัดวางง่ายๆ แต่เราสำเหนียกได้ว่า เจ้าของร้านต้องเป็นคนญี่ปุ่นแน่ๆ แบบไม่ต้องรู้มาก่อนก็ได้ลายเซ็นต์ตามสัญชาติชัดเจนมาก
เก้าอี้หน้าร้าน มีเท่านี้จริงๆ ไม่มีของตกเต่ง โต๊ะเก้าอี้เปล่าๆเลย
ตู้โชว์เรียบง่าย
ชุดเฟอร์นิเจอร์ นั่งละเลียดกาแฟก็ปราศจากสิ่งตกแต่งใดๆ เหมือนกัน แต่สะอาดเนี้ยบมาก
กาแฟรสอ่อนๆ ไม่จัด ไม่ดีดเท่าไหร่
ตอนสั่งสโคน เขาอบมาให้ด้วยนะคะ อุ่นร้อนดี กินกับบลูเบอร์รี่แยมโฮมเมดรสชาติดี ถ้าพูดถึงแล้ว เป็นสโคนที่เนื้อค่อนข้างเบา ไม่หวาน ไม่มันมาก แยมก็รสชาติกลางๆ น่าจะเป็นแยมสำเร็จรูป สรุปว่าโอเคค่ะ ถ้าชอบเบเกอรี่และกาแฟรสเบาๆ ฉันกินได้ เพราะมันไม่ค่อยหวานดี
ร้านเปิดเวลา 9.00 – 18.30 น. ปิดวันจันทร์
โทรศัพท์ : +856 20 5540 6036
แผนที่
Benoni Cafe

สลัดผักย่าง
ร้านนี้เป็นร้านของพี่สาวร้านกาแฟ Le Trio แต่เดิม เป็นร้าน Chez Phillippe แต่ร้านเขาปิดไปแล้วร้านนี้มาเปิดต่อ เอาสูตรการทำอาหารมาจากเมืองนอกเมืองนา ร้านเปิดทั้งมื้อเช้า กลางวันและเย็น อาหารก็เน้นเป็นอาหารประเภทพาสต้า สลัด อาหารเช้า อาหารกลางวันที่กินง่ายๆ ส่วนตัวแล้ว คิดว่าน่าจะลองน้อยไป พาสต้าเส้นออกจะนิ่มไปนิด ส่วนสลัดผัก โอเคมาก คราวหน้าคงต้องลองหลายๆจานค่ะ
สปาเก็ตตี้กระเทียมพริกแห้ง
ร้านอยู่ติดร้านกาแฟแต่เป็นชั้นสองค่ะ เดินขึ้นไปนิดหน่อย เวลาเปิดปิดลืมถามซะงั้น แต่น่าจะปิดวันอาทิตย์เหมือนร้านน้องสาวค่ะ เพราะไปดูไม่เห็นเปิดเหมือนกัน ทีนี้ลองมาดูร้านเก่าๆที่ยังอยู่บ้างไปเวียงจันทน์หลายทีไม่เคยเขียนถึงซะที
Le Bannetone
ขนมร้านนี้เวลามาถ่ายรูป แทบไม่ต้องแต่งรูปกันเลย อินเนอร์แรงมาก
ร้านนี้เป็นร้านที่ต้องมากินทุกครั้งเมื่อมาเวียงจันทน์ และหลวงพระบาง ชอบครัวซองต์ร้านนี้ เพราะอร่อยเสมอต้นเสมอปลาย เวลาเดินเข้าร้าน เปิดประตูจะได้กลิ่นขนมอบหอมฟุ้ง ร้านนี้ ขายทั้งขนมปัง พาย คีช ปานินิ และ ทาร์ตต่างๆ วัตถุดิบที่ใช้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นวัตถุดิบที่หาได้ง่ายในลาว ไปครั้งนี้ฉันซื้อตับเป็ดบดกลับมาด้วยอร่อยอย่าบอกใคร ราคาร้านนี้ก็เอาเรื่องพอสมควรค่ะ แกว่งอยู่ที่ราวๆ 20,000 กีบ-55,000 กีบ แต่อย่างว่าละค่ะ ร้านโปร ไม่ผิดหวังแน่ๆ ดูรูปจะเข้าใจ
Apple Tart
Croque Monsieur
Nectarine Tart
Terrace หน้าร้านที่มีชาวต่างชาติท้องถิ่น เขามาเสวนาถามไถ่ทุกข์สุขกัน
ร้านอยู่ถนน NorkeokoummaneSt Mixay
โทร +856 21 217 321
ร้านสวนลาว Lao Garden
เห็ดบดหลวงพระบาง เมนูที่ไมควรพลาดของสวนลาว
ด้วยความที่รู้จักกันมานาน และการมาเยือนร้านนี้ไม่เคยผิดหวัง ทั้งเรื่องการต้อนรับและอาหาร ร้านสวนลาวเป็นหนึ่งในไม่กี่ร้านในเวียงจันทน์ ที่ได้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองที่สำคัญเสมอ น่าเสียดายที่การไปรอบนี้ ไม่ได้มีอุปกรณ์ในการถ่ายภาพไป ภาพที่ได้จึงไม่ค่อยสวยงามเหมือนรสชาติ ราคาอาหารเริ่มต้นที่ 15,000 กีบ ไปจนถึง 60,000 กีบ แล้วแต่จะสั่ง ข้อดีอีกอย่างของร้านนี้ที่ไปบ่อยๆ เพราะคุณแพร ผู้จัดการที่ร้าน ทุกครั้งที่ไป เธอจะดูแลให้ความช่วยเหลือแนะนำดีมาก ที่สำคัญร้านนี้เป็นที่ฝากท้องเวลาอยู่เวียงจันทน์นานๆ เพราะกินอาหารฝรั่งทุกมื้อก็ไม่ไหว แต่จะให้กินอาหารลาว ที่ขายอยู่ทั่วไปก็ไม่ไหวอีกเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นมีหวังกลับประเทศไม่เหลือผมให้หวีสักเส้น คนลาวกินผงชูรสดุมากๆ ร้านนี้จึงเป็นที่ฝากผีฝากไข้ยามบาดเจ็บในหน้าที่ เช่น อาหารเป็นพิษ (ซึ่งเกิดกับเพื่อนทุกคนที่ไปด้วยกันแล้วอยู่นานๆ เกิดจากการกินอาหารข้างทางที่ไม่สะอาด)
ปลาคังลวกจิ้ม
ข้าวคลุกกะปิที่เรียงเม็ดสวย หมูหวานเป็นหมูหวาน กุ้งแห้งเป็นกุ้งแห้ง เครื่องครบครัน
ใครจะมาเที่ยวเวียงจันทน์ไม่อยากให้พลาดร้านนี้ ลองติดตามได้บนเฟซบุคค่ะ สอบถามก่อนไปเยือนได้ คุณแพรเป็นคนไทยค่ะ ให้ข้อมูลได้ชัดเจน สื่อสารได้ หากมีจัดเลี้ยงร้านนี้เหมาะมาก ด้วยที่นั่งและห้องจัดเลี้ยงติดแอร์
ติดตามความเคลื่อนไหวของร้านได้ที่
https://www.facebook.com/lao.garden
แผนที่ค่ะ
เฝอหลักสี่
เฝอรวม น้ำใสกริ๊บ เส้นอร่อยมากต้องจริตสุดๆ
ปัญหาเรื่องการกินเฝอที่ประเทศลาวของฉันเป็นปัญหาโลกแตก เพราะชอบน้ำซุปแต่อย่างอื่นต้องคิดอีกที เส้นไม่ถูกใจบ้าง ลูกชิ้นไม่อร่อยบ้าง เนื้อสดไม่นุ่มบ้าง เป็นคนเยอะเรื่องนี้จริงๆ และปัญหาสุดท้ายคือคนลาวกินเฝอชามใหญ่มาก เคยคุยกับคนขับรถตู้ที่ลาว เขาเคยมาเที่ยวเมืองไทย เขาว่าเฝอเมืองไทย กินแล้วรำคาญไม่อิ่มสักที ของฉันเป็นอีกปัญหาคือ มันไม่หมดสักที บางร้านชอบใช้เส้นที่มีขอบหยักเหมือนเลื่อย เส้นก็เลยแข็งๆ ไม่เหนียวนุ่ม ข้อดีคือไม่อืด แต่มันเพลียมากเวลาต้องเคี้ยวเส้นแข็งๆในปริมาณเยอะๆ
บ่นมาพอควร คุณแพร อีกนั่นแหละเธอจัดร้านที่แสนจะถูกใจมาให้ ร้านนี้ น้ำใส หอม ลูกชิ้นโอเค เนื้อเปื่อยอร่อยมาก และเส้นค่ะ เส้นไม่เหมือนที่อื่น เป็นเส้นที่นุ่มเหนียว รักมาก มาได้กินวันสุดท้ายก่อนกลับ ร้านชื่อร้านเเฝอหลักสี่ บอกไม่ถูกว่าอยู่ที่ไหน ลองอ่านที่อยุ่บนป้ายหรือไม่ก็ลองโทรไปนะคะ จนปัญญามาก
สิ่งที่ชอบคือเขาแบ่งหม้อไม่ปะปนกัน หน้อซุปก็ซุป หม้อลวกก็ลวก น้ำซุปใสแหน๋วน่ากิน ไม่มีกลิ่นสัตว์ใหญ่รุนแรงเหมือนร้านอื่นๆ
ขนาดถ้วย มีให้เลือก ตั้งแต่เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก และโคตรใหญ่ เลือกตามความชอบ ราคาเอาเรื่องอยู่ค่ะ คือ 15,000, 20,000,25,000, 30,000 เราๆ นี่เล็กสุดก็เต็มคราบละค่ะ
ร้านเป็นร้านบ้านๆ มีคนมากินเยอะมาก
ร้านเปิดขายเฉพาะมื้อเที่ยง เบอร์โทรตามป้ายเลย
ร้านสามเอื้อยน้อง

ลูกชิ้นรวม
ร้านนี้เป็นร้านป๊อบฮิตของนักท่องเที่ยว คนที่อยู่ลาวมานานๆ บอกว่ามันอูมามิไปหน่อย ส่วนตัวไปกินแล้วเฉยๆ มีความรู้สึกเหมือนไปกินร้านเฝอแซ่บที่ดังๆ แต่ลูกชิ้นไม่อร่อยเท่า แต่ถามว่าร้านนี้ตอบโจทย์เวลามีคนไปด้วยกันหลายคนไหม บอกเลยว่ามันใช่ เขาขายทุกสิ่ง ตั้งแต่ เฝอ แหนมคลุก น้ำปั่น อาหารจานเดียว ส้มตำ สะดวกมาก อยู่ในถิ่นท่องเที่ยว บังเอิญเดินหลงไป เลยจำชื่อถนนไม่ได้ แต่ถ้าเดินจากถนนฟ้างุ้มเลียบแม่น้ำโขง ถามใครทุกกคนก็รู้จักแน่นอน ชื่อร้านแปลได้ว่าร้านสามพี่น้อง เป็นภาษาอังกฤษว่า 3 Sisters เก๋ๆค่ะ มาดูรูปกันดีกว่า
ตำลาวรสชาติถนอมปาก
ไข่ฮ้วนนึ่ง เมนูนี้ป๊อดค่ะ มันเป็นไข่ค้างรัง ฟักเป็นตัวแล้วแค่ตายในไข่ ดังนั้นร่างกายของที่อยู่ในนั้นจึงกำลังฟอร์ม ไม่ไหว บายค่ะ ที่เชียงใหม่มีขายแบบปิ้งที่นี่เขาขายแบบนึ่งค่ะ
สรุปว่าการมาเที่ยวเวียงจันทน์พอสังเขปรอบนี้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเมืองมากมาย หากไม่มีการควบคุมเมืองนี้จะเติบโตไปเรื่อยๆ อย่างสนุกสนานทีเดียว กลายเป็นเมืองสหประชาชาติไปเลย ไว้คราวหน้าหากได้ไปอีก จะมาอัพเดทร้านใหม่ให้นะคะ